พระหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่Aหัวมีขีด เนื้อว่าน ปี2497 ยอดนิยมสูงสุด

พระหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่Aหัวมีขีด เนื้อว่าน ปี2497 ยอดนิยมสูงสุดวัดช้างให้ เรื่องการจัดอันดับพระหลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ หัวมีขีด(A เอ), พิมพ์ใหญ่ลึก (ใหญ่B บี), พิมพ์ใหญ่Cซี ค่านิยมในวงการ การดูพระหลวงพ่อทวดต้องดูที่พิมพ์ทรงองค์พระโดยเฉพาะใบหน้าของหลวงพ่อทวดซึ่งต้องจดจำจากองค์พระแท้ ที่เคยผ่านสายตามาก่อน จากนั้นต้องดูที่ เนื้อพระแก่ว่านหรือแก่ดิน นอกจากนี้ก็ดู เม็ดแร่หลังองค์พระ

ในแวดวงนักสะสมพระหลวงพ่อทวด ต่างยอมรับว่า เสี่ยลิ้งเป็นมือวางอันดับต้นๆ คนหนึ่งของการซื้อขายพระสายนี้ ด้วยจำนวนของพระหลวงพ่อทวดที่ผ่านมือมานับร้อยนับพันองค์ ทุกรุ่นทุกพิมพ์ทุกสภาพ ทำให้เสี่ยลิ้งมีความเชี่ยวชาญชำนาญพระหลวงพ่อทวดมากเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าแทบจะไม่ต้องส่องดูด้วยกล้องขยายก็บอกได้ทันทีว่า พระแท้หรือปลอม เสี่ยลิ้งบอกว่า การดูพระหลวงพ่อทวดต้องดูที่พิมพ์ทรงองค์พระโดยเฉพาะใบหน้าของหลวงพ่อทวดซึ่งต้องจดจำจากองค์พระแท้ ที่เคยผ่านสายตามาก่อน จากนั้นต้องดูที่ เนื้อพระแก่ว่านหรือแก่ดิน (กากยายักษ์) จุดตำหนิของพระแต่ละพิมพ์(พระบางองค์จุดตำหนิอาจจะกดพิมพ์ไม่ติด หรือเลือนหายไป ต้องดูจุดอื่นๆ ประกอบ แต่สำหรับเซียนระดับมืออาชีพ ตรงจุดนี้เขาไม่ค่อยดูกัน) นอกจากนี้ก็ดู เม็ดแร่หลังองค์พระ

สิ่งต่างๆเหล่านี้ หากไม่มีโอกาสได้ดูจากพระองค์แท้ ก็พูดลำบากเหมือนกัน ฉะนั้น นักสะสมหน้าใหม่ จึงต้องพยายามเช่าหา พระแท้จากคนที่เชื่อถือได้เพื่อจะได้ยึดถือเป็น "องค์ครู" เป็นตัวอย่างเอาไว้ศึกษาต่อไป นอกจากการซื้อขายพระเป็นงานอดิเรกแล้วเสี่ยลิ้งยังเคยฝากผลงานกระฉ่อนวงการ พระหลวงพ่อทวด มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งคนรุ่นหลังอาจจะไม่ทราบ คือ เป็นผู้จัดอันดับพระหลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ หัวมีขีด เป็นพิมพ์ยอดนิยมสูงสุด (พิมพ์ใหญ่ เอ) แทนที่ พระหลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ลึก (พิมพ์ใหญ่ บี) ซึ่งสมัยก่อนเซียนพระสายใต้จัดให้พิมพ์ใหญ่ บี เป็นอันดับยอดนิยมสูงสุด

เสี่ยลิ้งให้เหตุผลว่า พิมพ์ใหญ่หัวมีขีด(พิมพ์ใหญ่ เอ) มีใบหน้าใหญ่ อวบอิ่ม องค์พระใหญ่บึกบึน สง่างาม ทุกส่วนสัดคมชัดลึก และพระพิมพ์นี้พบเห็นบ่อยกว่า พิมพ์ใหญ่ลึก(พิมพ์ใหญ่ บี) ซึ่งพบเห็นยากกว่า เพราะมีจำนวนน้อยกว่า นอกจากนี้พิมพ์ใหญ่ บี ขอบองค์พระจะหดเล็กน้อย ใบหน้างุ้มลง แก้มตอบ โดยภาพรวมแล้ว พิมพ์ใหญ่ เอ ดูแล้วจะสง่างามกว่า แต่ทั้งนี้ก็ย่อมแล้วแต่สายตาของบางท่าน ที่อาจจะดูแตกต่างกันก็ได้ ตามแต่ใจใครรักชอบพิมพ์ไหนมากกว่ากัน อย่างไรก็ตามพระหลวงพ่อทวดทั้ง๒ พิมพ์นี้มีราคาเช่าหาไม่แตกต่างกันมากนัก คืออยู่ที่หลักแสนปลายๆ จนถึงหลักล้านขึ้นไป ในองค์ที่สวยคมชัดจริงๆ มีการเปลี่ยนมือถึง ๓-๕ ล้านบาทก็มี

พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน รุ่นแรก ปี2497 พิมพ์ใหญ่C วัดช้างให้

เรื่องการจัดอันดับพระหลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ เอ พิมพ์ใหญ่ บี นี้เสี่ยลิ้งได้เขียนบทความไปลงในนิตยสาร "สนามพระ" ของอรรถภูมิบุณยเกียรติ เมื่อสิบกว่าปีก่อนและได้รับการยอมรับจากนัก สะสมพระหลวงพ่อทวด ตั้งแต่สมัยนั้น มาจนถึงทุกวันถือเป็นมาตรฐานสากล ที่รู้กันโดยทั่วไป เสี่ยลิ้งยังได้ให้ข้อมูลด้วยว่า พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ พิมพ์ใหญ่ซี เป็นพิมพ์ที่กดพิมพ์ก่อน แม่พิมพ์เป็น ครั่งกดพิมพ์ด้วยมือพอกดพิมพ์ไปนานเข้า แม่พิมพ์จะหดตัวบ้าง โย้เอนเอียงบ้าง ทำให้ได้องค์พระแตกต่างกันไป ความสวยงามคมชัดจึงดูด้อยลงไปด้วย พระพิมพ์นี้ใต้ฐานจะมี รูสำหรับเอาก้านธูปเสียบเพื่อเอาองค์พระออกจากแม่พิมพ์ ส่วนพระหลวงปู่ทวดพิมพ์ใหญ่ เอ และ หลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่บี แม่พิมพ์เป็นหินครก มีความแข็งแรงทนทานกว่า และไม่ต้องใช้ก้านธูปเสียบใต้ฐานเพื่อเอาองค์พระออกจากแม่พิมพ์ ด้วยเหตุนี้ พระหลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ เอ และพิมพ์ใหญ่บี ส่วนมากใต้ฐานจะไม่มีรูปรากฏให้เห็น

เรื่องของประสบการณ์การใช้พระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ เสี่ยลิ้งยืนยันว่าจากการพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ที่เป็นหมอผู้ทำหน้าที่ชันสูตรศพจากอุบัติเหตุบอกว่าไม่เคยพบเห็นคนตายมี พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้แขวนติดตัวเลย ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อของคนทั่วๆ ไปว่าใครมี พระหลวงพ่อทวด ติดตัวจะไม่ตายด้วยอุบัติเหตุอย่างแน่นอน นอกจากความสนใจในเรื่องพระเครื่องแล้วเสี่ยลิ้งยังนับเป็นผู้ที่มีความรอบรู้เกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์หลายๆ ด้านโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับพระเครื่อง พระบูชา เทวรูป ศาสนา โบราณวัตถุ โบราณสถาน ศิลปะวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ รวมทั้งเรื่องของ "เทพ" ทั้งทางจีน พราหมณ์ และไทย เนื่องจากเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก จนสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ

สำหรับกระแสจตุคามรามเทพในทุกวันนี้เสี่ยลิ้งบอกว่า ยังมีผู้ศรัทธาเลื่อมใส และต้องการของรุ่นแรก ปี ๒๕๓๐ อยู่เสมอ โดยยืนยันว่า ยังขายจตุคามฯ ได้เหมือนเช่นเมื่อก่อนเพียงแต่ราคาอาจจะถูกลงบ้างเล็กน้อย ในบางครั้งเมื่อเห็นผู้ศรัทธาองค์พ่อต้องการจริงๆ ก็ต้องยอมแบ่งปันให้เขาไปใช้ แม้ว่าจะขาดทุนบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างเมื่อเร็วๆนี้ ได้ขายจตุคามฯ ไป๗ องค์ ได้เงินมา ๒ ล้านกว่าบาท ก็เอาเงินจำนวนนี้ไปซื้อพระยอดนิยมอื่นๆโดยเฉพาะ พระหลวงพ่อทวด ได้มาหลายองค์ ล้วนสวยงามคมชัดทั้งนั้น รวมทั้ง เสือ หลวงพ่อปาน ตัวนี้ซื้อมาเฉียดแสน เสี่ยลิ้งให้ความเห็นว่าในชั่วโมงนี้ คนที่รักองค์พ่อจตุคามฯ จริงๆต้องช่วยกันซื้อช่วยกันขาย เพื่อจะได้มีกระแสหมุนเวียนเกิดขึ้นมาบ้างไม่ใช่ว่าเงียบไปเฉยๆ กันหมด ถ้าเป็นอย่างนี้โอกาสที่องค์พ่อจตุคามฯ จะหวนกลับมาดังอีกครั้งก็คงยากโดยส่วนตัวของเสี่ยลิ้ง เรื่องนี้ไม่เคยมองข้าม ยังคงมีการซื้อขายจตุคามฯ อยู่เป็นประจำ

ว่ากันตามความเป็นจริง"เสี่ยลิ้ง หาดใหญ่" นับเป็นผู้มีอันจะกินคนหนึ่งของเมืองหาดใหญ่ เพราะคุณเตี่ยได้ทิ้งมรดกไว้มากมาย โดยเฉพาะร้านขายยาจีน ตรงหัวถนนนิพัทธอุทิศ ๒ หน้าตลาดกิมหยง ใจกลางแหล่งธุรกิจสำคัญของภาคใต้ ที่มีการประเมินราคาที่ดินแพงยิ่งกว่าทองคำ (ต่อจากฉบับวันเสาร์ที่ ๒๒ มี.ค. ๒๕๕๑) สมัยเด็กๆเมื่อกลับมาจากโรงเรียน แทนที่จะได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนเพื่อนๆ เสี่ยลิ้งกลับต้องช่วยงานที่ร้าน ต้องฝานยาจีนเป็นแผ่นบางๆ จำนวนมาก ต้องโขลกยาตำยาทุกวัน จนมือทั้งสองข้างแข็งอย่างกับฝ่ามือนักชกจากเส้าหลิน และด้วยความที่อยู่ใกล้ชิดกับการขายยาจีนตลอดมาทำให้เสี่ยลิ้งมีความรู้ในตัวยาจีนทุกชนิด จนสามารถหยิบยาได้ถูก และสอบผ่านได้รับใบประกอบโรคศิลป์แพทย์แผนโบราณมาแล้ว เสี่ยลิ้งมีลูกชาย ๔ คน คนโตเรียนจบ ม.อ.(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่) แล้วออกมาช่วยงานที่ร้าน พร้อมกับเรียนรู้เรื่องพระเครื่องไปด้วย มีแววว่าจะสืบสานเป็นเซียนพระแทนพ่อได้ในอนาคต ส่วนลูกชายคนรองกำลังเรียนหมออยู่ที่ ม.อ.หาดใหญ่ คนที่ ๓-๔ เรียนชั้นมัธยมอยู่ที่โรงเรียนแสงทองวิทยา หาดใหญ่ จากการที่ลูกชายคนโตสามารถทำงานแทนพ่อได้ทำให้เสี่ยลิ้งมีเวลาออกมาซื้อขายแลกเปลี่ยนพระกับพรรคพวกเพื่อนฝูง ซึ่งเสี่ยลิ้งบอกว่า เป็นงานอดิเรกและเป็นการพักผ่อนไปในตัวไม่ได้ซีเรียสจนถือเป็นธุรกิจอย่างจริงจังจึงทำให้ทุกวันนี้เขามีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอ

เมื่อถามถึงประสบการณ์อภินิหารอันเกิดมาจากการใช้พระเครื่องหรือองค์พ่อจตุคามฯ เสี่ยลิ้งบอกว่า ยังไม่เคยประสบเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ ในชีวิตมาก่อนเลย ซึ่งถือได้ว่า เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งเหมือนกัน พร้อมกล่าวทิ้งท้ายด้วยอารมณ์ดีว่า "ผมเป็นคนดี ทำแต่ความดีมาตลอด สร้างบุญกุศลเป็นประจำ พระย่อมคุ้มครองผมอย่างแน่นอน" 0แล่ม จันท์พิศาโล 0