พระนางพญา มีทั้งหมด 7 พิมพ์ หนึ่งในห้าของพระชุดเบญจภาคี
วันนี้ขอเริ่มกันที่ พระนางพญา กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก เนื้อดินเผา หนึ่งในห้าของพระชุดเบญจภาคี ที่นักสะสมพระเครื่องใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีเงินเป็นแสนเป็นล้านขึ้นไป ถึงจะสมหวังดั่งใจนึก พระนางพญา มี ๗ พิมพ์ คือ พระนางพญาพิมพ์ใหญ่เข่าโค้ง (ยอดนิยมสูงสุด) และ นางพญาพิมพ์ใหญ่เข่าตรง พิมพ์ใหญ่เข่าตรง ( มือตกเข่า)  พิมพ์อกนูนใหญ่  พิมพ์สังฆาฏิ  พิมพ์อกนูนเล็ก และ พิมพ์เทวดา คือ พิมพ์ในภาพนี้ ซึ่งเป็นพระที่ อู๊ด สุพรรณ เช่ากว่า ๓ แสนบาท ลักษณะพิมพ์ทรงจะตื้น อกไม่นูนเหมือนพิมพ์อื่นๆ จึงมีบางคนเรียกพระพิมพ์นี้ว่า พิมพ์อกแฟบ พระองค์ถือว่าสวยคมชัดมาก การตัดกรอบได้สามเหลี่ยมสมส่วน ไม่เอนเอียงไปทางข้างหนึ่งข้างใด เนื้อหยาบตามสูตรของ พระนางพญา อย่างแท้จริง

อาณาจักสุโขทัย สมัย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช นับเป็นยุคที่บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และพระพุทธศาสนา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการจัดสร้างประติมากรรม รูปเคารพ ต่างๆ รวมทั้งพระเครื่องรางของขลัง ซึ่งพบจากกรุต่างๆ ใน จ.สุโขทัย อย่างมากมาย ซึ่งล้วนมีความงดงามในรูปแบบศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ ในส่วนของการ พระเครื่อง จะมีการสร้างด้วยเนื้อต่างๆ อาทิ เนื้อดิน เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อชิน เนื้อตะกั่ว และเนื้อชินเงิน ที่มีการสร้างมากที่สุด และกรุที่พบพระมากที่สุก ก็คือ กรุวัดเขาพนมเพลิง เมืองศรีสัชนาลัย อันเป็นเมืองเก่า พระกรุนี้แตกออกมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ มีพระออกจากรุมากมายนับพันๆ องค์ ทำให้ราคาเช่าหาในสมัยนั้นไม่แพงจนเกิน สร้างความฮือฮาให้วงการพระเครื่องเป็นอันมาก 

** พระเนื้อชินเงิน จากกรุนี้ที่สร้างความสนใจให้นักสะสมมาก คือ พระอู่ทองตะกวน นับเป็นพระเครื่องพิมพ์เดียวที่ไม่เคยพบจากกรุอื่นใดมาก่อนเลย และ พระนางตะกวน ซึ่งลักษณะพิมพ์ทรงองค์พระเหมือนกับ พระท่ามะปรางค์ ** พระเนื้อชินเงินกรุนี้มีเอกลักษณ์คือทุกองค์จะมีคราบผิวปรอทครอบผิว และส่วนใหญ่จะมีไม่มีคราบกรุมากนัก เนื่องจากกรุที่พบในองค์เจดีย์มีไหบรรจุองค์พระอีกชั้นหนึ่ง

** คำว่า "ตะกวน" มาจากชื่อของ วัดตะกวน ในกรุงสุโขทัย ที่มีการขุดพบพระกรุครั้งแรก ทำให้ทราบว่า ศิลปะยุคแรกๆ ของสมัยสุโขทัย นั้นมีพุทธศิลป์ตามรูปแบบของพระกรุนี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานของศิลปะอู่ทอง เชียงแสน เข้ามาปะปนกับศิลปะสุโขทัยที่ยังไม่มีจุดกำหนดแน่นอน วงการพระจึงเรียก พุทธศิลป์ยุคต้นสมัยสุโขทัย ว่า ศิปละสุโขทัยแบบตะกวน โดยการนำเอาชื่อ วัดตะกวน ที่ขุดพบพระเป็นครั้งแรกมาตั้งชื่อศิลปะยุคแรก  ต่อมาช่างสมัยสุโขทัย ได้พัฒนาฝีมือดีขึ้นเรื่อยๆ จนได้ข้อยุติว่า ศิลปะสุโขทัย ที่เป็นศิลปะเฉพาะตัวนั้นเป็นอย่างไร? ก็คือ ศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ อันอ่อนช้อนงดงามยิ่ง ดังที่ปรากฏอยู่ในทุกวันนี้

** พระนางตะกวน หรือถ้าจะเรียกให้เต็มๆ ก็ต้องว่า พระนางพญาศิลปะสุโขทัยแบบตะกวน กรุวัดเขาพนมเพลิง เป็นพระติดรางวัลของของ ชาติ วิศิษฎ์สรอรรถ นักสะสมพระระดับแนวหน้าคนหนึ่งที่นิยมชมชอบ พระเนื้อชิน โดยเฉพาะ และส่งพระเข้าประกวดตามงานใหญ่ๆ เสมอมา พักนี้คงเหนื่อยหน่าย เลยเพลาๆ มือลงไปบ้าง แต่หากใครอยากพบตัวไปหาได้ที่ ร้านพระกรุเทวรูปธิเบตเนปาล ห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว ชั้น ๒ ห้อง เค ๑ โทร.๐๘-๙๘๓๐-๐๔๖๙ 

**  ปีนี้เป็นปีแห่งกระแสนิยม พระพิฆเนศ แต่จะฮือฮาเท่ากับ จตุคามรามเทพ ในปีที่ผ่านมาได้หรือไม่? ผู้สันทัดกรณีวงการพระบอกว่า ไม่น่าจะถึงขนาดนั้น เพราะกระแสนิยม พระพิฆเนศ นั้นมีมาอย่างเรียบง่ายนานแล้ว คนที่ศรัทธาเลื่อมใส พระพิฆเนศ มาเก่าก่อนอย่างไร ก็คงยึดมั่นนับถืออยู่อย่างแน่วแน่  แต่ผู้ที่เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเพิ่มขึ้นจะเป็นผู้ที่เคยพลาดหวังจากองค์ จตุคามฯ ส่วนหนึ่งมาก่อน และส่วนหนึ่งมาจาก พวกเห่อตามกระแส และอีกกลุ่มหนึ่งคือ พวกขาดที่พึ่ง ใครว่าอะไรที่ไหนดีก็จะพากันไปกราบไหว้บูชา แม้แต่การ เข้าทรงปลอมๆ ก็ยอมเชื่อ อันนี้อันตรายมาก ขอให้ระวังไว้ด้วย

** การเคารพศรัทธาเลื่อมใส พระพิฆเนศ นั้นขอให้ทราบด้วยว่า ไม่มีการเข้าทรงอย่างเด็ดขาด ตามศาสนาพราหมณ์ (ฮินดู) ไม่มีเรื่องนี้ ที่เข้าทรง พระพิฆเนศ ในเมืองไทย ปลอมทั้งนั้น ** เป็นที่ทราบกันแล้วว่าต้นกำเนิดของ พระพิฆเนศ มาจากประเทศอินเดีย โดยเฉพาะที่ เมืองมุมไบ และ เมืองปูเน ที่ แล่ม จันท์พิศาโล เคยเดินทางไปกราบไหว้สักการบูชายังแผ่นดินถิ่นกำเนิดขององค์ พระพิฆเนศ ที่ชาวอินเดียเรียกว่า กาเนส (Ganesh) ใน ๒ เมืองนี้มาแล้ว ๒ ครั้ง จึงโชคดีที่ได้ซึมซับความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับ พระพิฆเนศ ได้มากพอสมควร อิทธิพลของ ศาสนาพราหมณ์ ได้แผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ทำให้มีรูปเคารพของ เทพต่างๆ ในศาสนาพราหมณ์ปรากฏอยู่ทั่วทุกแห่งหน  ที่พบเห็นมากที่สุดคือ พระพิฆเนศ เทพแห่งความสุขสมหวัง และขจัดอุปสรรคทั้งปวง

** ในประเทศศรีลังกา ชวา (อินโดนีเซีย) ลาว เขมร เวียดนาม ไทย พม่า ฯลฯ ล้วนมีรูปเคารพ พระพิฆเนศ รุ่นเก่าๆ ประดิษฐานอยู่ในทุกแห่งหน ทั้งขนาดบูชาองค์ใหญ่ๆ และขนาดเล็กสำหรับห้อยติดตัว วันนี้ ป๋อง สุพรรณ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง ได้มอบภาพ พระพิฆเนศ เนื้อสัมฤทธิ์ ศิลปเขมรยุคต้น ขนาดห้อยติดตัว มาให้ชมเป็นวิทยาทาน นับเป็น พระพิฆเนศ ที่มีความสวยสมบูรณ์คมชัดอีกองค์หนึ่งที่น่าสนใจมาก

** เหรียญหลวงพ่อทวด ที่มีจำนวนสร้างน้อย และเป็นพระเครื่องหลวงปู่ทวดที่เช่าหากันแพงสุดๆ อีกรุ่นหนึ่ง คือ เหรียญรุ่นพุทธซ้อน ปี ๒๕๐๙ พิมพ์แจกกรรมการ เป็นเหรียญเสมาขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าเหรียญเสมาทั่วๆ ไปเล็กน้อย ด้านหน้ามีรูปหลวงพ่อทวด นั่งสมาธิอยู่เหนือ พระอาจารย์ทิม ทำให้ดูเหมือนกับว่า พระอาจารย์ทิมแบกหลวงพ่อทวด ชาวบ้านจึงเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า "ขี่คอ" ความจริงเหรียญรุ่นนี้แกะพิมพ์มาจากภาพถ่ายภาพหนึ่ง ที่มี พระอาจารย์ทิม ยืนอยู่หน้ารูปปั้น หลวงพ่อทวด ซึ่งตั้งอยู่บนศาลา สูงกว่า พระอาจารย์ทิม นั่นเอง  ส่วนที่เรียกว่า รุ่น "พุทธซ้อน" หมายถึง พระพุทธซ้อนกันสององค์ อาจจะมีความหมายผิดพลาดไป แต่ชาวบ้านก็เรียกกันอย่างนี้มานานแล้ว แก้ไม่ได้ 

รูปหล่อบูชาหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ณ วัดช้างให้

** ด้านหลังเป็นสถูปเจดีย์ที่บรรจุอัฐิ หลวงพ่อทวด มีข้อความว่า "ที่ระลึกแด่ผู้อุปการะ งานเดือน 5 ทุกปี ๒๕๐๙" เหรียญนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า บุทองคำ ของ วิจิตร ปิยะศิริโสฬส บ้านขนมไทยสอง-แสน ถนนนางงาม สงขลา เช่ามาเฉียดสองแสนบาท แพงเอาการทีเดียว เพราะหายากจริง  ยากกว่าเนื้อว่านปี ๙๗ ก็ว่าได้ 

** พระเกจิอาจารย์ ในสมัยก่อน หากไม่มีวิชาอาคมแก่กล้าจริงๆ จะไม่ยอมอนุญาตให้ลูกศิษย์ หรือชาวบ้านสร้างพระเครื่องในรูปเคารพของท่านขึ้นอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็จะไม่ยอมรับนิมนต์ไปร่วมนั่งปรกปลุกเสกพระเครื่องในพิธีพุทธาภิเษกใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือตัวเองว่าวิชาอาคมยังไม่แก่กล้า ขืนไปนั่งจับสายสิญจน์ร่วมพระเกจิอาจารย์รุ่นอาวุโส ก็จะรู้สึกละอายแก่ใจ เพราะความไม่รู้จักเจียม ผิดกับสมัยนี้ พระหนุ่มพระน้อย พรรษายังไม่มากนัก ก็ตั้งตัวเป็น พระเกจิอาจารย์ ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลร่วมกับพระเถราจารย์ผู้ใหญ่อย่างไม่รู้จักสำนึกในฐานะของตัวเองเพราะ พระเกจิอาจารย์ (เถื่อน) บางรูปนั้นศีลห้ายังไม่บริสุทธิ์ก็มี 

** พระเกจิอาจารย์สายใต้ สายก่อน ยิ่งเคร่งครัดในเรื่องเหล่านี้มาก เพราะวัดทางภาคใต้มีการศึกษาเรื่องคาถาอาคมกันอย่างจริงจัง จนมีสำนักไสยศาสตร์อันโด่งดังมากมาย ที่รู้จักกันดีมากก็คือ สำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง และสายอื่นๆ อีกหลายแห่ง ** และนับเป็นความโชคดีที่ แล่ม จันท์พิศาโล ได้มีโอกาสกราบไหว้ พระเกจิอาจารย์สายใต้ ที่เก่งกล้าสามารถมาก หนึ่งในนั้นคือ พ่อหลวงสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย อ.เมือง จ.ชุมพร โดยเฉพาะช่วงปี ๒๕๒๑ ได้ลงไปกราบท่านบ่อยๆ กิตติศัพท์ของท่านเป็นที่เลื่องลือกันมากในทุกด้าน ยาฉุน ที่ท่านอมในปาก ถือเป็นของวิเศษสุดยอด  ป้องกันได้สารพัดอย่าง อีกทั้งเมตตามหานิยมเป็นเลิศ ของดี อีกอย่างที่ไม่มีพระเกจิอาจารย์อื่นใดมีเหมือนท่าน คือ น้ำปลา ที่ผ่านการเสกของท่านแล้ว สามารถรักษาโรคผิวหนังได้ดีนัก กินได้โดยไม่มีรสเค็ม นับว่ามหัศจรรย์จริงๆ 

ภาพถ่ายหลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หลังยาฉุน

** ด้านวัตถุมงคลของ พ่อหลวงสงฆ์ มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพระผง พระว่าน เหรียญ หรือรูปหล่อ ล็อกเกต ฯลฯ ที่นิยมสูงสุด คือ รูปหล่อโบราณ สร้างปี ๒๕๐๕ พร้อมกับ เหรียญรุ่นแรก ซึ่งทุกวันนี้หากสวยๆ เช่ากันที่ ๒-๓ หมื่นบาท (เหรียญนี้มีของปลอมมากมาย) ส่วน รูปหล่อโบราณ ตามที่เห็นในภาพนี้ สร้างน้อยมาก คาดว่าไม่เกิน ๑๐๐ องค์ โดย พ่อหลวงสงฆ์ ประกอบพิธีเททองหล่อแบบโบราณภายในวัด เพื่อแจกเฉพาะกรรมการเท่านั้น ราคาเช่าหาในทุกวันนี้จึงแพงถึงหลักแสนต้นๆ  พระองค์นี้เป็นของ หมอ ท่าแซะ ได้มานานแล้ว

** พ่อหลวงสงฆ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีคำเรียกชื่อท่านแปลกว่าพระคณาจารย์ท่านอื่นๆ ที่ส่วนมากจะเรียกกันว่า หลวงพ่อ หลวงปู่ พระอาจารย์ ฯลฯ ถ้าหากเป็นพระเกจิทางสายใต้ ก็มีคำที่แตกต่างจากภาคอื่นอีกคำหนึ่ง คือ พ่อท่าน แต่สำหรับคำว่า พ่อหลวง ดูเหมือนจะมี พ่อหลวงสงฆ์ เพียงท่านเดียวกันเท่านั้น พ่อหลวงสงฆ์ จันทสโร ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๓ เป็นชาว ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร มรณภาพเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๒๖ สิริรวมอายุได้ ๙๓ ปี ** วัดของท่านอยู่ริมคลอง จึงมักจะมี เต่า คลานขึ้นมาหาท่านบ่อยๆ ท่านก็เมตตาป้อนอาหารให้ พร้อมกับลงอักขระที่กระดอง ผูกผ้าจีวรเอาไว้ที่คอ แล้วปล่อยเตาให้อยู่อย่างอิสระ ชาวบ้านรู้ว่าเป็น เต่าพ่อหลวงสงฆ์ ก็ไม่กล้าทำร้าย พอถึง วันเข้าพรรษา เต่าทุกตัวจะคลานมาขึ้นมาจากคลอง มาอยู่กับท่านตลอดพรรษา ออกพรรษาแล้วก็ลงน้ำไปตามปกติ

** วันที่ พ่อหลวงสงฆ์ มรณภาพ เตาทุกตัว ต่างพากันคลานมาที่วัด เหมือนกับจะรู้ข่าวเศร้า พอเข้าเขตวัดแล้ว โดยปกติสมัยก่อน เต่า จะคลานไปตามเส้นทางที่จะไปยังกุฏิของพ่อหลวง แต่วันนั้น พอถึงทางแยกไปที่ ศาลาตั้งศพพ่อหลวง เต่ากลับเลี้ยวไปเส้นทางนั้นอย่างแสนรู้ เมื่อถึงตรงบันได เต่าไม่สามารถคลานขึ้นบันได ก็ได้แต่ก้มคำนับศพ ๓ ครั้งพร้อมกับ หลั่งน้ำตา ออกมาทุกตัว เป็นปรากฏจริงที่ชาวบ้านพบเห็นเป็นประจำทุกวัน ในช่วงนั้น

** บรรเจิด  ชวนศิริมงคล น้องชายที่น่ารักของ แล่ม จันท์พิศาโล ส่งข่าวจาก กฟผ.บางกรวย ว่าลูกพี่ที่ทำงานเดียวกัน คือ จักรวุฒิ ปิ่นโรจน์ มีจิตศรัทธาอย่างสูง ถึงกับจัดสร้าง พระพุทธรูปเชียงแสน ขนาดหน้าตัก ๘๐ นิ้ว  เพื่อประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุดวงเดียว อ.ลี้ จ. ลำพูน ซึ่งเป็นวัดที่พระลูกชายไปอุปสมบทและจำวัดอยู่ที่นั่น  ท่านผู้ใดจะร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดสร้างพระพุทธรูปองค์ ซึ่งถือว่าจะได้รับอานิสงส์อย่างมาก ติดต่อร่วมบริจาคได้ที่โทร.๐๘-๙๔๘๔-๔๙๑๐, ๐-๒๔๓๖-๐๔๐๓, ๐-๒๔๑๒-๑๘๕๑ งานนี้ แล่ม ขอร่วมบริจาคทำบุญด้วย ๑,๐๐๐ บาท

** วัดพระธาตุดวงเดียว เป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่สมัย พระนางจามรี ผู้สร้าง เมืองลี้ ก่อน พระนางจามเทวี สร้างเมืองหริภุญไชย เสียอีก และวัดนี้ ครั้งหนึ่ง ท่านครูบาศรีวิชัย ได้เคยมาพำนัก พร้อมกับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาประดิษฐานไว้ที่นี่ ต่อมา ท่านครูบาขาวปี ได้มาบูรณะสร้างเสนาสนะต่างๆ เพิ่มขึ้น จึงนับเป็นวัดสำคัญอีกวัดหนึ่งในสาย ท่านครูบาศรีวิชัย ยอดนักบุญแห่งล้านนา ** ในส่วนของ จักรวุฒิ ปิ่นโรจน์ ท่านเป็นวิศวกร ๑๑ ฝ่ายวิศวกรรมโยธาและพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสใน วัดพระธาตุดวงเดียว แห่งนี้มาก ด้วยได้ประสบพบเห็นปรากฏการณ์ต่างๆ ที่ชวนให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใส จึงได้เชิญชวนเพื่อนฝูงในที่ทำงานและศรัทธาสาธุชนทั่วไปร่วมทำบุญสร้าง พระพุทธรูปเชียงแสน ถวายวัดนี้ เพื่อเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาสืบไปนานเท่านาน

** พบกับ "คมเลนส์ส่องพระ" ได้ใหม่ในวันพรุ่งนี้...นะมัสเต ***

0 แล่ม จันท์พิศาโล 0 คมชัดลึก