ประวัติตำนานเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย วิธีไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ

ประวัติตำนานเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย วิธีไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ชั่วโมงนี้ถ้าเอ่ยชื่อ "อาจารย์ฐานพัฒน์ ตรัยคุณวิชญ์" ลูกศิษย์ลูกหาล้วนรู้จักท่าน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในเรื่องศาสตร์และศิลป์ของจีน อาจารย์คร่ำหวอดในการดูฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง มากเป็นพิเศษ และยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่อาจารย์มีความชำนาญมากคือ การเป็นเจ้าพิธีกรรมในเรื่องของการไหว้เทพเจ้า  ในโอกาสใกล้จะถึง วันตรุษจีน เทศกาลวันปีใหม่ของชาวจีน อาจารย์ฐานพัฒน์ เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเคล็ดลับพิธีกรรมเรื่องราวความเป็นมาและวิธีการ เครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย อันถือเป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ของชาวจีน เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เป็นเจ้าแห่งเทพทั้งหลายทั้งปวง การจัดโต๊ะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย โชคลาภเสริมมงคลแห่งดวงชะตา
ไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย ความสำคัญของเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา
ฤกษ์ไหว้ ไฉ่ซิงเอี๊ย 2559 การจัดโต๊ะไหว้ไฉซิ้งเอี้ยเสริมมงคล ปีวอก

พระธนบดี ท้าวกุเวร

วิธีการไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ถูกต้อง
การไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย วิธีไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิงเอี้ย

เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย วิธีไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ แนะนำวิธีไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ถูกต้องเคล็ดลับพิธีกรรมเรื่องราวความเป็นมา ในโอกาสใกล้จะถึงวันตรุษจีน เทศกาลวันปีใหม่ของชาวจีน วันตรุษจีน วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ปี2559

การไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย 1. ต้องมีเทียนเห่าจี๋ เพราะเทียนเห่าจี๋ เป็นเทียนที่ใหญ่ที่สุดบนสวรรค์ จากนั้นนำกระดาษทองเทพเจ้าเพื่อเอามาปูรองโต๊ะขึ้นสังเวยอัญเชิญ ซึ่งต้องประกอบด้วย กล้วย ซึ่งกล้วยแปลว่าเงินงอกงาม กล้วย จะต้องมีอั่นพอกล้วย จะเป็นหยิน หยาง เป็นลัทธิเต๋า เพราะว่าเทพเจ้าโชคลาภไฉ่ซิงเอี้ยนั้น เป็นลัทธิเต๋าสำเร็จมรรคผลที่ลื้อตึ้ง ต่อมาก็จะมีคำว่า สิ่วฮ้อ สิ่วฮ้ออันนี้แปลว่าอายุยืน ฉะนั้น เวลาถึงเทศกาลตรุษจีน ยามแรกประสมวันแรก ทั่วไปมักนิยมไหว้สิ่วฮ้อเพื่อต้องการให้อายุยืน เนื่องเพราะ คนเราอายุยืนไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ถือว่าดีที่สุดแล้ว คนเราปราศจากโรคภัยไข้เจ็บก็ถือว่าดีมากๆ ของไหว้ตรุษจีน 2559 องค์ประกอบต่อไป ข้างหน้าจะเป็นเหล้า ต่อมาเป็นน้ำเปล่า 5 ถ้วย ข้างหน้าสุดจะเป็น น้ำชา 5 ถ้วย ตามด้วย สาคูต้มแดงจำนวน 24 ถ้วย พร้อมด้วย ข้าวสวย 12 ถ้วย อันนี้คือเป็นการอัญเชิญ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือเครื่องกระดาษการไหว้อัญเชิญนั้น องค์ประกอบก็คือ สิ่นแซจี๊ สิ่นแซ่จี๊ แปลว่าเงิน เงินที่ไหว้แล้วทำให้อายุมั่นขวัญยืน ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนอันต่อมา เรียกว่ากิมเต้า 1 เต้า กิมเต้า 1 เต้า คือ เพื่อไหว้เทวดาฟ้าดิน เพื่อไหว้เพื่อมีอำนาจ ต่อมาคือ "ก้งจี๊" ก้งจี๊คือ อัญเชิญท่านมาพร้อมเทียบพระราชสาส์น ประกอบด้วยเงิน 13 มหามงคลใหญ่ๆ อันดับต่อมาซึ่งขาดไม่ได้ ก็คือแปเหลี่ยว แปเหลี่ยวเป็นมหามงคลมากๆ เวลาเข้าไปขอผู้หญิง ไปหมั้นผู้หญิง ก็จะต้องมีแปเหลี่ยวไปให้

ไฉ่ซิงเอี๊ย หรือ พระธนบดี

ส่วนอันดับต่อไป คือขนมเปี๊ยะ ทั้งหมดจะมี 5 อย่าง คือธาตุน้ำ ดิน ไฟ ไม้ ทอง แล้วก็มีเส้นหมี่ เส้นหมี่ถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนผลไม้มงคลที่ขาดไม่ได้คือ ทับทิม และ แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลคนจีนเรียกว่าเผ่งกล้วย เผ่งกล้วย เผ่งอัน เผ่งอันแปลว่าแคล้วคลาดปลอดภัย ต่อมาคือสาลี่ สัวปางล้าย ก็คือ มีคนหนุนหลัง เงินทองหลั่งไหลเข้ามา ส้มก็เป็นไส่กิก เป็นของมงคล กล้วยก็เป็นของมงคล สับปะรดก็เป็นของมงคล องุ่นก็เป็นของมงคล

การไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ องค์ประกอบหลักๆ ของการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภนั้น ห้ามมีของคาวเด็ดขาด เพราะท่านเป็นเต๋า เป็นมหาเทพที่ใหญ่พอๆ กับเทพเจ้าตั่วเหลาอี๊ อาจารย์ฐานพัฒน์มีความรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยมาตั้งแต่เมื่อไร

ประวัติเทพเจ้าไฉซิ้งเอี้ย
ประวัติไฉ่ซิ้งเอี้ย "ตั้งแต่ 4-5 พันปีมาแล้ว เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยมี 2 พระองค์ องค์แรกเรียกว่า เอียกวงเม้ง เอียกวงเม้งเนี่ยเป็นอมาตย์ที่มหาซื่อสัตย์ที่สุด ฉะนั้นเมื่อเห็นว่ามนุษย์ เดือดร้อนกันมากๆ เลยไปขอบำเพ็ญตบะ จากเง็กเซียนฮ่องเต้ จนกระทั่งสำเร็จขึ้นมา เมื่อสำเร็จขึ้นมาท่านจะไปไหน ใครมีทุกข์ท่านจะแจกเงิน แต่มีขอแม้ว่าจะต้องเป็น ปีแรก วันแรก ยามแรก เท่านั้น หลังต่อมาเตียตงเม้ง นี่เป็นปังบุ๋น เป็นนักปราชญ์ เป็นอมาตย์นักปราชญ์ ต่อมามีมหาเทพองค์หนึ่ง ซึ่งแก่กล้าตบะมากๆ เรียกว่าตังบู๊ โดยสังเกตดีๆ จะมีกระบอง 7 สี หมาดำ เสือขาว แล้วก็แซ่ อันนี้องค์นี้จะบำเพ็ญตบะอยู่ที่บู๊ตึ้ง เป็นลูกศิษย์ของไท่ซั่งเล่าจินพร้อมๆ กับเป็นศิษย์พระสหายของเทพเจ้าเที่ยนเพียนเสี่ยงตี่หรือตั่วเล่าเอี้ย ถ้าใครทราบว่าที่ถนนตะนาวศรี ศาลเจ้าพ่อเสือ จริงๆ ชื่อของเขาคือ เที่ยนเพียนเสี่ยงตี่ หรือ ตั่วเล่าเอี้ย แต่เนื่องจากมีองค์เสือ เขาเรียกว่าเจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อเสือกับเที่ยนเพียนเสี่ยงตี่ หรือ ตั่วเล่าเอี้ย เป็นพระสหายกัน ซึ่งฤทธิ์เดชพอๆ กัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็เกิดความรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องเป็นเอก ก็ไปหาไท่ซั่งเล่าจิน ไท่ซั่งเล่าจินก็บอกว่าไม่ยากเลย ยามสองของปีแรก วันแรก ท่านก็มาโปรด หรือยามสามมาโปรดมนุษย์ได้แค่วันเดียว ก่อนจะถวายพระพรเง็กเซียนฮ่องเต้ ก็เปรียบเสมือนพระราชาแห่งสวรรค์ แล้วจากนั้นก็มาโปรดมนุษย์ ในยามที่ 2 ยาม 2 กับยาม 3 ก็คือเวลา ระหว่างตี 2 ถึงตี 5 อันนี้คือชื่อจิวฮวงเม้ง

ประวัติไฉ่ซิ้งเอี้ย ความเป็นมาเนี่ย ฉะนั้นคนชาวจีนเนี่ยถ้าไม่มีเหตุ ไม่มีผล เขาจะไม่ไหว้กันสุ่มสี่สุ่มห้า ฉะนั้นประเพณีอันนี้ดั้งเดิมจริงๆ เนี่ย ประเทศจีนเรื่องการไหว้เทพเจ้าต่างๆ นานาต้องยกให้ เพราะว่าสมัยก่อนทั้งก่อนพุทธกาล เขาเชื่อถือเรื่องทวยเทพเทวดา จนกระทั่งมาถึงองค์พระบรมศาสดาของเราขึ้นมาแล้วเนี่ย คือนิกายพุทธ จะเป็นมหายานก็ดี หรือเป็นหินยานก็ดี จากนั้นมาก็คือประสมประสานกัน จนกระทั่งมาเป็น ณ เวลานี้ ฉะนั้น ชาวจีนเนี่ยอพยพมามาจากประเทศจีน มาถึงเมืองไทยสยาม ดินแดนสยาม เรียกว่า เสี่ยมล้อ เสี่ยมล้อก็คือสยามนั่นเอง พอมาจะไหว้เจ้าต่างๆ ซึ่งมีองค์ประกอบคือ 1.มหาเทพคือตั่วเล่าเอี้ย เทพเจ้าโชคลาภ ขอให้ข้าพเจ้าไปถึงสยาม แล้วขอให้ข้าพเจ้ามีงานมีการทำ ขอให้ร่ำรวย ผลปรากฏว่าด้วยความมัธยัสถ์ของคนจีน อดทนและประหยัด ถึงปลายปี ใกล้ปีใหม่แล้ว ยามแรกเขาจะตั้งโต๊ะบูชา อย่างที่เห็นในรูป รูปภาพนี้นะจะไหว้กัน โดยจะจับยามแรก และยามสอง ยามสาม ยามแรกคือห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง ยามสองคือตี 1 ถึงตี 3 ยามสามตี 3 ถึง ตี 5 ได้แค่ 3 ยามนี้เท่านั้นเอง ฉะนั้นความเป็นมาองค์ประกอบก็มีแค่นี้

ฉะนั้นที่ศาลเจ้าพ่อเสือ ที่ถนนตะนาว ข้างๆ จะมีรูปเสือ มีคนจูงเสืออยู่ อันนั้นคือสัญลักษณ์ของเทพเจ้าโชคลาภ เพราะว่าอะไร เพราะว่าเทพเจ้าโชคลาภเคยพูดกับมหาเทพตั่วเล่าเอี้ยว่า เมื่อท่านไปไหนเราจะให้พาหนะกับท่าน คือ เสือขาวนี้เอง ฉะนั้นเวลาเสือขาวคำรามทีหนึ่งก็จะคลายเงินคลายทองออกมาให้เยอะแยะ ฉะนั้นคนจีนก็เลยตั้งชื่อว่าเป็นหลีเอี้ย คำว่าหลีแปลว่ากำไร เอี้ยแปลว่าเจ้าพ่อแห่งผลกำไรนั่นเอง

การบูชาไฉ่ซิงเอี้ย ถ้าเกิด เรามีไว้ที่บ้านเราจะบูชายังไง
เทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิ้งเอี้ย บูชาไม่ยาก ก็องค์ประกอบก็คือน้ำ หรือน้ำชา แล้วก็ผลไม้ แล้วก็ขนมไหว้ตรุษจีน 2559ที่เป็นเจ แล้วจุดธูป 5 ดอก ห้ามมีของคาวเด็ดขาด ทีนี้เทพเจ้าโชคลาภแต่ละปีอัญเชิญ ท่านจะมาไม่ประจำทิศ อย่างปี 2551 ในคืน วันที่ 6 ก็คือ ประมาณ 5 ทุ่ม ก็คือจะมาทางทิศตะวันตก ปีที่แล้วคือตะวันตกเฉียงเหนือ ก็คือทิศนี้ทิศที่เห็นอยู่นี้ ก็ยังถือว่าเป็นปี 2550 อยู่ แต่ทีนี้พระคุณเจ้า พระเดชพระคุณเจ้า พระครูปลัดสิทธิพงเนี่ย ท่านจะเอาหล่อองค์ไท่เส่งเอี้ย ก็จะหันหน้า ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ คือทิศประจำ ปี2550 พระคุณเจ้าพระเดชพระคุณท่านพระครูปลัดสิทธิพง ก็ตั้งใจด้วยความศรัทธาว่าจะหล่อท่านขึ้นมา จัดเตรียมตามหลักลัทธิเต๋า ขึ้นมา และทั้งพราหมณ์ด้วยที่ถูกต้องตามกฎของการบวงสรวงที่แท้จริง แล้วคนที่มีเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยไว้ที่บ้านจำเป็นต้องเลือกทิศที่ตั้งหรือไม่ ไม่จำเป็น เราอยากตั้งทิศไหน เราก็ตั้งที่ที่เราเคยตั้ง บางคนมีตั้งข้างๆ ที่ทำงานก็มี บางคนตั้งไว้โต๊ะข้างหลังก็มี ตั้งไว้โต๊ะข้างหลัง ความหมายก็คือ มีคนหนุนหลัง ก็คือมีเทพเจ้าโชคลาภหนุนหลังเราอยู่ ถ้าไว้ข้างหน้าไม่สมควร ไม่ควรไว้กับสิ่งที่เป็นอัปมงคล ใกล้ห้องน้ำ ห้องส้วม ใกล้บันไดไม่สมควร

แล้วส่วนใหญ่จะตั้งไว้ที่ไหน
ส่วนใหญ่มากๆ มักจะมีไว้ที่ทำงาน โต๊ะทำงาน ที่ข้างๆ โต๊ะ หรือข้างหลังโต๊ะ หรือไม่ก็จะมีหิ้งโดยเฉพาะของท่านเลย คือหันหน้าออกไปจากหน้าบ้าน ไม่หันเข้าบ้าน หันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย จำเป็นไหมว่าต้องทิศไหน ไม่จำเป็นเพียงแต่ว่าอย่าใกล้สิ่งที่มันเป็นอัปมงคล เช่นใกล้บันไดบ้าน ใกล้ขื่อ ใกล้ห้องน้ำ เพราะส่วนใหญ่เขาไม่ทำกัน

ผลที่ได้จากการบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยไว้คืออะไร คนที่บูชาส่วนใหญ่ คนเราถ้าเชื่อเรื่องพลังจิต คือองค์ท่านมีพลังอยู่แล้ว ถ้าบวกกับพลังของเรา ก็จะสื่อกับท่านว่า ขออะไรก็ขอ แต่ถ้าคนที่ไม่ทำงานทำการขอไม่ได้ ส่วนใหญ่เทพเจ้าโชคลาภคนทำการค้ามักจะขอในสิ่งที่ให้มีผลกำไร เงินทองอย่ารั่วไหล เทพเจ้าโชคลาภหลักๆ ก็คือ ไม่ให้เงินทองรั่วไหล เหมาะกับพวกกิจการค้า แต่ถ้าคนงอมืองอเท้า ถ้าไม่ทำมาหากิน แล้วมาไหว้ขอโชคลาภ ย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ข่าวพระเครื่องที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด