ดวงบ้านดวงเมือง กับความสนใจของคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นสิ่งที่คนไทยจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจเรื่องดวงคำทำนายของโหรจากสำนักต่างๆ แม้ว่าจะถูกบ้างผิดบ้าง แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ฉุกคิด มีสติก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป คนจำนวนไม่น้อยคิดว่า ดวงเมืองในปี ๒๕๕๑ จะดีกว่าดวงเมือง ปี ๒๕๕๐ ทั้งนี้ "คม ชัด ลึก" ได้รวบรวม "หลากหลายคำทำนายจากหลายสำนัก" ของโหรชื่อดัง ซึ่งทำนายชะตาของดวงเมืองไว้ดังนี้

พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ เจ้าคณะตำบลบางม่วง และเจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง (สัจจธรรมาราม) ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บอกว่า ดวงเมืองปี ๒๕๕๑ จะคล้ายกับดวงเมืองปี ๒๕๓๖ ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ ๑๔-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑ มีดาวเคลื่อนผ่านหลายดวง โดยเฉพาะดาวพระราหู การเคลื่อนย้ายของดวงดาวจะมีผลต่อความวุ่นวายของสถานการณ์บ้านเมือง ถ้าขาดความปรองดองสามัคคี ผู้มีอำนาจไร้สติ อาจเกิดเหตุรุนแรง ถึงขั้นเลือดตกยางออก และที่จะลืมเสียไม่ได้ คือ ปี ๒๕๕๑ จะเกิดเหตุสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ ยิ่งกว่าปี ๒๕๕๐ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น พุทธศาสนิกชนต้องเข้าใจหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่าจากสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา

อ.พัฒนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ กล่าวว่า ดวงเมืองปี ๒๕๕๑ น่าจะดีกว่าปี ๒๕๕๐ บ้าง เนื่องจากตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ บ่ายๆ ดาวพฤหัสฯ ได้ย้ายจากราศีพิจิก มาอยู่ราศีธนูในตำแหน่งเกษตร ซึ่งไปดีกับดวงเมือง แล้วก็จะทำให้การบริหารประเทศดี ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์เงินทุนต่างๆ น่าจะดีขึ้น แต่ดีได้ประมาณสองเดือนเท่านั้น หากมองลงไป ตลอดปี ๒๕๕๑ ดาวพฤหัสฯ เดินไม่ดี ส่งผลให้ดวงเมืองไม่ดีตามไปด้วย ทั้งนี้หากมองในแง่ดี ดาวพฤหัสฯ โคจรไปที่ราศีธนู สิ่งที่จะดีนั้นก็คือ อสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด ที่เคยนิ่งก็จะกลับมาดีอีกรอบ ส่วนบัตรเครดิตทำทีว่าจะแย่ เพราะอำนาจคนซื้อน้อยลง ปีหน้าจะเบ่งบานอีกรอบ แต่จะเป็นการก่อหนี้ยังไงคิดกันเอาเอง อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจ ทั้งภาครัฐและเอกชน จะไปก่อหนี้ต่างประเทศมากขึ้น

"ข่าวดีในปี ๕๑ รัฐบาลจะมีการปรับภาษีให้เหลือน้อยลง แต่ภาษี vat จะขึ้น แล้วดอกเบี้ยของแบงก์รัฐจะเพิ่มขึ้นทันที อาจจะขึ้นประมาณ ๑ เปอร์เซ็นต์ แล้วท่านที่ชอบเล่นหุ้น หุ้นจะขึ้นอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมกราคม ถึง ๑๒ กุมภาพันธ์ ๕๑ ช่วงสองวันที่ ๔-๒๖ เมษายน ๕๑ ราคาจะดี ช่วงที่สามวันที่ ๒๔ พฤษภาคม-๑๔ มิถุนายน ๕๑ ราคาพุ่งเป็นจรวด ช่วงวันที่ ๒๒ กันยายน- ๑๕ ตุลาคาม ๕๑ จะมีเสียงโห่ร้องไชโยอีกรอบ และช่วงสุดท้ายวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน-๓ ธันวาคม ๕๑ เล่นแล้วรวย คือ ปล่อยขายแล้วจะรวย"

ในขณะที่ อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า จุดดีของดวงเมือง ปี ๒๕๕๑ เราจะเห็นว่า ดาวพฤหัสฯ โคจรจากภพมรณะ เราจะเห็นว่ามีเหตุการณ์วุ่นวายมีการสูญเสีย มีการเจ็บป่วย แต่พอดาวพฤหัสฯ ย้ายเข้าสู่ภพศุภะ ดวงเมืองน่าจะดี เพราะ ๑.เป็นเกษตร แสดงถึงความมั่นคง ๒.อยู่ในตำแหน่งศุภะ ซึ่งแปลว่า ความดีและสันติสุข ด้านศาสนาก็จะมีพิธีการเกิดขึ้นทางด้านสาธารณะ วัดเองก็จะได้รับการดูแล การศึกษาน่าจะได้รับการพัฒนา โดยเฉพาะการศึกษาชั้นสูง มหาวิทยาลัย กฎหมาย และการแพทย์จะได้รับการพัฒนายิ่งขึ้น ทั้งนี้ กิจกรรมทางด้านดีนอกจากด้านอสังหาริมทรัพย์แล้ว ศุภะยังหมายถึงการท่องเที่ยว ดังนั้นการท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้น การค้า การสื่อสารอื่นๆ ก็น่าจะดี

ดังนั้น ดาวพฤหัสฯ โคจรมาอยู่ราศีนี้ พยากรณ์ว่าดีก็แล้วกัน แต่การดีนั้น เป็นการดีชนิดค่อนข้างรีบเร่ง เพราะดาวพฤหัสฯ โคจรอย่างรีบเร่ง หรือทางโหรเรียกว่าโคจรแบบวิกล วิปริต เราจะเห็นได้ว่าดาวพฤหัสฯ จะโคจรอยู่ราศีธนู ไม่กี่เดือน ประมาณ ๔-๕ เดือนเท่านั้น ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่า หลังเลือกตั้งแล้วก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญเกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่ดาวพฤหัสฯ ที่โคจรหยุดนิ่ง แล้วก็เล็งไปที่ดาวอังคาร ตรงนี้อาจจะมีการปรับ ครม.ครั้งสำคัญเกิดขึ้นได้ และดาวพฤหัสฯ จะโคจรถอยหลังลงมาในราศีธนู จนถึงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๑ ก็จะโคจรไปเรื่อยๆ

ฉะนั้น หลังวันที่ ๔ ธันวาคาม ๒๕๕๑ เป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะดาวพฤหัสฯ จะโคจรสวนกับราหูตรงมังกร วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เป็นไปได้ว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้น เช่น การยุบสภาเกิดขึ้น "ปี ๕๑ สิ่งที่ควรพิจารณาการเกิดคราส คือ เรื่องอุปราคา พระเคราะห์บังกัน ซึ่งจะเกิดขึ้นครั้งสำคัญถึง ๔ ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นของวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ครั้งที่สองเกิดตรงวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ครั้งที่สามสำคัญเกิดตรงกับวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ แนวของคราสจะพาดผ่านตำแหน่งของพระจันทร์ในดวงเมือง พระจันทร์หมายถึงใครจะพาดผ่านนั้น ก็จะเกิดการสูญเสียเกิดความเศร้าสลดในบ้านเมืองได้ แล้วครั้งสุดท้ายที่น่าจะติดตามคือ จันทรุปราคา ที่เกิดขึ้นตรงระยะศูนย์องศาของวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๑ เพราะฉะนั้น การสูญเสียน่าจะเกิดขึ้นตามที่เกิดคราส" อ.ภิญโญกล่าว

ด้าน อ.ขุนทอง อสุนี เจ้าของฉายา "ราชาไพ่ยิปซี" กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ไพ่การเงินหรือไผ่ยิปซี จะดูเป็นไพ่เหรียญ แล้วใครจะทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือใหญ่จะไพ่การเงินนี้ ๗ เหรียญ คือ ไพ่มาตรฐาน ย้อนกลับไปในปี ๒๕๔๙ จะมีไพ่เงินเพียง ๖ เหรียญ แสดงว่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่เศษฐกิจก็พอหมุนไปได้ ส่วนปี ๒๕๕๐ มีเพียง ๔ เหรียญ ไม่ค่อยเกิดการลงทุน ส่วนในปี ๒๕๕๑ คนที่ทำธุรกิจ ไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ ดูทีท่าว่า จะหนักกว่าปีนี้ ระวังเดือนมีนาคม ๒๕๕๑ เป็นช่วงหุ้นตก แล้วจะมีโรงงานปิดตัวอีกมาก ซึ่งมีธุรกิจเพียงสองด้านเท่านั้นที่ดี คือ อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการท่องเที่ยว รวมทั้งปี ๒๕๕๑ จะมีการจากไปของบุคคลสำคัญ และกลางปี ๒๕๕๑ เท่าที่ดูจากไพ่จะเกิดวิกฤติปัญหาบ้านเมือง แต่ถ้ามีอะไรพลิกผัน ก็อาจไม่ถึงกับยุบสภาก็ได้

"หลังการเลือกตั้งจากนี้ไป อาจมีกลุ่มคนบางกลุ่ม ไม่ยอมรับกติกาของการเลือกตั้ง จนมีการออกมาเคลื่อนไหว ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา อาจทำให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นได้ในปี ๒๕๕๑ ก็เป็นได้ ตรงนี้ถือเป็นระเบิดเวลา ที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง และอายุรัฐบาลชุดนี้ คงอยู่ได้ไม่เกิน ๑ ปี" นี่คือดวงคำทำนายของ "โหรฟันธง" หรือ อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์

พระราชสุธี (โสภณ โสภณจิโต ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๓ และเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร กทม. บอกว่า หลักธรรม สำหรับพิจารณาเหตุสังเกตผล ดูบุคคลหรือคณะบุคคลให้รอบคอบ ด้วยตนเอง ตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนชาวกาลามะ แห่งเกสปุตตนิคม ในแคว้นโกศล

ไม่ให้เชื่อถืองมงายไร้เหตุผล ตามหลัก 10 ข้อ คือ
๑.มา อนุสฺสาเวน หมายถึง อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
๒.มา ปรมฺปราย หมายถึงอย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
๓.มา อิติ กิรายหมายถึง อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
๔.มา ปิฎกสัมฺปทาเนน หมายถึง อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก
๕.มา ตกฺกเหตุ หมายถึง อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
๖.มา นยเหตุ หมายถึง อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
๗.มา อาการปริวิตกฺเกน หมายถึง อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ
๘.มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา หมายถึง อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
๙.มา ภพฺพรูปตาย หมายถึง อย่าเชื่อโดยเห็นว่าผู้พูดควรเชื่อได้ และ
๑๐.มา สมโฌ โน ครุ หมายถึง อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา 

คมชัดลึก0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง 0
0 ภาพ กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร 0