พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2567
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
คำแนะนำจากตำรวจเมื่อถูกโกง |
เงื่อนไขการรับประกัน การันตีพระเครื่อง |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
ทำเนียบพระกรุเมืองนคร |
ทำเนียบพระเครื่องเมืองนคร |
ชมรมพระเครื่อง |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
ตลาดพระ amulet for you |
เช่า-บูชา เครื่องรางของขลัง |
พระหลวงปู่ทวด วัดต่างๆ |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
หลักเมืองนครศรีธรรมราช |
จตุคาม ของดีนำมาโชว์ |
บทความ น่ารู้องค์พ่อจตุคาม |
Jatukam Amulets |
บทความจตุคามรามเทพ |
ลิงค์น่าสนใจ |
หนังสือพิมพ์ |
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน |
เทศกาล วันสำคัญ |
ดวง ดูดวง หน้าหลัก |
บทความดีๆ |
นิทานสอนใจ |
วัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย |
บทสวดมนต์ สำหรับชาวพุทธ |
พระเครื่อง นานาสาระ |
พระพุทธรูปสำคัญของไทย |
คาถา-อาคม พระคาถาอาคม |
พระพุทธรูปปางต่างๆ |
พุทธศาสนสุภาษิต |
ข่าวพระเครื่อง |
บทความพระเครื่อง |
Thai Buddha Amulets |
ข่าวพระพุทธศาสนา |
ข่าวเครื่องรางของขลัง |
สาระพระเครื่องไทย |
ประวัติพระวิปัสสนาจารย์ |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๔)อาณาจักรตามพรลิงค์ ก่อนมาเป็น"นครศรีธรรมราช"นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม นครศรีธรรมราชมีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งผู้คนยังอาศัยถ้ำเป็นแหล่งพักพิง ล่าสัตว์ และหาพืชผลเป็นอาหาร กระทั่งรวมกันเป็นชุมชนเกษตรกรรมยุคแรกเริ่ม แล้วพัฒนามาเป็นบ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ด้วยบริเวณที่ตั้ง เป็นท่าเรือสำหรับขนถ่ายสินค้า มีชื่อว่า "ตามพรลิงค์"
นับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๓ เป็นต้นมา ชาวอินเดีย เปอร์เซีย อาหรับ และโรมัน เดินเรือมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออกไกลได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ คาบสมุทรมลายู จึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางเส้นทางเดินเรือ จากฝ่ายตะวันตก อันได้แก่ อินเดีย เปอร์เซีย อาหรับ และโรมัน ฝ่ายตะวันออกได้แก่ จีน เวียดนาม จามปา และ เจนละ เรือสินค้ามักแวะพักเพื่อขนถ่ายสินค้า หรือ หาเสบียงอาหาร เอกสารของอินเดียที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่พบ คือ มิลินทปัญหา ซึ่งเขียนขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๕ เรียกเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง อันอยู่ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชปัจจุบันว่า ตมะลิง ตามพรลิงค์ ตมลิงคาม และ ตามพรลิงเกศวร แต่ทาง พงศาวดารลังกา เรียกเมืองนี้ว่า ตัมพรัฏฐะ ชวกะ สิริธรรมนคร และศรีธรรมราช ส่วน พ่อค้าอาหรับ จากตะวันออกกลาง เรียกดินแดนแห่งนี้ว่า ซาบากะ หรือ ซาบัก จนราวพุทธศตวรรษที่ ๙ ๑๐ จึงเริ่มมี เอกสารจีน กล่าวถึงดินแดนแห่งนี้ว่า ตั้งมาหลิ่ง ตันมาลิง โฮลิง โพลิง นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ศูนย์กลาง ของอาณาจักรตามพรลิงค์ในยุคแรก น่าจะตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกกันว่า เมืองท่าเรือ บนสันทรายบริเวณปากอ่าวนครศรีธรรมราช ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง เนื่องเพราะเป็นบริเวณที่มีร่องรอยการตั้งถิ่นฐาน สืบเนื่องมาแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ทั้งมีการขุดค้นพบเครื่องมือหินขัด กลองมโหระทึก เทวสถาน และโบราณวัตถุในศาสนาพราหมณ์ ตลอดจนพระพุทธรูป อีกทั้งบริเวณนี้ ยังเป็นจุดที่มีลำน้ำ (คลองท่าเรือ) ไหลออกทะเล ซึ่งในอดีตแล้วน่าจะเป็นร่องน้ำลึก ที่เรือเดินทะเลสามารถแล่นเข้ามาจอดได้ทั้งยังมีการพบเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถังและซ้องเครื่องสังคโลกสมัยสุโขทัยและเงินตราต่างชาติที่ใช้เป็นสื่อกลางในการค้าขายแลกเปลี่ยนในซากเรือบรรทุกสินค้าที่จมอยู่บริเวณปากอ่าวและในลำคลองแห่งนี้หลายลำด้วยกัน ตามพรลิงค์ได้เจริญเติบโต เป็นศูนย์กลางการค้าขาย สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่เพียงแต่จะมั่งคั่งทางเศรษฐกิจเท่านั้น การพบปะของชนชาติต่างวัฒนธรรมอย่างไม่ขาดสาย ได้ถ่ายทอดวิทยาการสู่ชนพื้นเมือง โดยเฉพาะเมื่อชาวอินเดียที่เข้าในยุคแรก ๆ ในราวพุทธศตวรรษที่ ๘ ได้นำอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ เข้ามาสู่อาณาจักรตามพรลิงค์ และบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนความเจริญรุ่งเรือง ทั้งในด้านอักษรศาสตร์ การปกครอง ศาสนา และพิธีกรรม หลักฐานอันแสดงถึง อิทธิพลของศาสนาพราหมณ์นอกเหนือจากสถาปัตยกรรม และสระน้ำโบราณ ที่สร้างขึ้นตามคติพราหมณ์แล้ว ยังมีศิลาจารึก และประติมากรรมรูปเคารพเนื่องในศาสนาพราหมณ์ อีกเป็นจำนวนมาก ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔- ๑๖ อาณาจักรศรีวิชัย มีอำนาจปกครองเหนือดินแดนแถบนี้ ส่งผลให้ พุทธศาสนานิกายมหายาน แพร่หลายเข้ามา โดยมีศูนย์กลางที่สำคัญอยู่ที่ เมือง ครหิ ไชยา และแผ่อิทธิพลลงมา แถบแคว้นตามพรลิงค์จนตลอดคาบสมุทรมลายู ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ๑๘ อำนาจทางการเมืองการปกครอง ของแคว้นตามพรลิงค์สูงขึ้น ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้ครองแคว้น ตั้งตนเป็นกษัตริย์ทรงนาม พระเจ้าศรีธรรมโศกราชและสถาปนาราชวงศ์ ปทุมวงศ์ หรือ ปัทมวงศ์ ขึ้น แผ่อิทธิพลเหนือหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วคาบสมุทรภาคใต้ อย่างไรก็ตาม จากจารึกหลักที่ ๒๔ หรือ จารึกพระเจ้าจันทรภาณุ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๘ พระเจ้าจันทรภาณุ ก็คือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช คำแปลจากจารึกหลักที่ ๒๔ มีความว่า "พระเจ้าผู้ปกครองเมืองตามพรลิงค์ ทรงพระราชสมภพ เพื่อยังประชาชน ที่ถูกชนชาติต่ำช้าปกครองมาแล้วให้สว่างรุ่งเรือง ทรงประพฤติประโยชน์เกื้อกูลแก่พระพุทธศาสนา พระองค์สืบพระวงศ์มาจากพระวงศ์อันรุ่งเรือง คือ ปทุมวงศ์ พระองค์ทรงมีรูปร่างเหมือนพระกามะ อันมีรูปงามราวกับพระจันทร์ ทรงฉลาดในนิติศาสตร์เสมือนด้วยพระเจ้าธรรมาโศกราชเป็นหัวหน้าของพระราชวงศ์...ทรงพระนามว่าศรีธรรมราชศรีรีสวสฺติ พระเจ้าผู้ปกครองเมืองตามพรลิงค์ เป็นผู้อุปถัมภ์ตระกูลปทุมวงศ์ พระหัตถ์ของพระองค์มีฤทธิ์อำนาจมาก...ด้วยอานุภาพแห่งบุญกุศล ซึ่งพระองค์ได้ทำต่อมนุษย์ทั้งปวงทรงเดชานุภาพประดุจพระอาทิตย์ พระจันทร์ และมีพระเกียรติอันเลื่องลือในโลกทรงพระนามจันทรภาณุศรีธรรมราช เมื่อกลียุค 4332..." อย่างไรก็ตาม จารึกหลักที่ ๒๓ หรือ จารึกวัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันถึงเรื่องสถานที่พบ ด้วยนักวิชาการกลุ่มใหญ่เชื่อว่า น่าจะมาจากวัดเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสลับกับ จารึกหลักที่ ๒๔ จารึกจันทรภาณุ แห่งตามพรลิงค์ อันเป็นที่ถกเถียงกันไม่ยุติ เหตุที่นักวิชาการเชื่อว่า น่าจะมีการสลับกันระหว่างจารึกสองหลักนี้ เพราะเนื้อเรื่องในจารึกหลักที่ ๒๓ จากวัดเสมาเมือง น่าจะเกี่ยวกับไชยามากกว่า ซึ่งในเมืองโบราณไชยานั้น ได้พบรอยโบราณวัตถุสถานร่วมสมัยศรีวิชัย คือ ประติมากรรมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์ปัทมปาณี อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๔ และยังมีโบราณสถานร่วมสมัย เช่น พระบรมธาตุไชยา เจดีย์วัดแก้ว และเจดีย์ วัดกาหลง อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔ ๑๕ เป็นต้น ร่องรอยหลักฐานเกี่ยวกับโบราณวัตถุสถาน ที่พบที่ไชยามีเป็นจำนวนมาก ในขณะที่หลักฐานอื่นในเมืองนครศรีธรรมราช ที่แสดงถึงความเป็นศรีวิชัยมีน้อย นอกเสียจากจารึกหลักนี้ที่มีน้ำหนักมากที่สุด ในขณะที่จารึกหลักที่ ๒๔ ซึ่งในทะเบียนจารึกระบุว่าพบที่ วัดเวียง อำเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี กลับเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ตามพรลิงค์ และพระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเรื่องของนครศรีธรรมราชโดยตรง จารึกหลักที่ ๒๓ มี ๒ ด้าน ด้านแรกกล่าว สรรเสริญพระราชาแห่งอาณาจักรศรีวิชัย และการสร้างศาสนสถานต่าง ๆ ด้านที่สอง ซึ่งผู้สักการบูชา "องค์พ่อ" จตุคามรามเทพ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ พระเจ้าจันทรภาณุ ซึ่งจารึกภาษาสันสกฤต แปลได้ความว่า "พระราชาธิราชองค์นี้ ทรงพระเดชานุภาพ (หรือด้วยรัศมี)เป็นเอกดุจดั่งดวงอาทิตย์ กำจัดความมืดมนคือ กองทัพของบรรดาราชศัตรูพระองค์ทรงประกอบด้วยความงามอันมีเสน่ห์(หรือประกอบด้วยความงามแห่งดวงจันทร์) เปรียบเสมือนดวงจันทร์ อันปราศจากเมฆหมอกในฤดูสารท ทรงมีเสน่ห์ดุจดั่งลักษณะของมันมถะ ประดุจดังพระเจ้าที่ทรงพระนามว่า วิษณุ และด้วยความกล้าหาญ ก็เปรียบเสมือนพระวิษณุองค์ที่สอง เพื่อกำจัดความหยิ่งยโสของบรรดาราชศัตรู ทรงพระนามว่า ศรีมหาราช เพื่อแสดงว่าพระองค์ ทรงสืบลงมาแต่ราชวงศ์ไศเลนทร จากพระองค์นั้น......" จากจุดนี้ เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคล "องค์พ่อ" จตุคามรามเทพขึ้นมา จึงได้นำสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ ใส่ในวัตถุมงคลด้วย |