*** "คมเลนส์ส่องพระ" ฉบับวันเสาร์ที่๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๐ *** พรุ่งนี้มีงานประกวดพระที่โรงเรียนพัทยา๒ บางละมุงจ.ชลบุรี งานนี้จัดเป็นประจำทุกปี โดย นำชัยดีวิ **

ถัดไป...วันอาทิตย์ที่ ๔ พฤศจิกายน ชมรมพระเครื่องเมืองละโว้ร่วมกับบริษัทกล้วยกล้วย จำกัด จัดประกวดพระรายการใหญ่ณ ศูนย์รวมตลาดนัดครบวงจรบานาน่า สแควร์ ติดกับมังกี้ โลตัส ลพบุรี ริมถนนพหลโยธิน  มลชัยสุติรัตนชัย (ช้าง ท่าโพธิ์) ยืนยันงานนี้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา

**  "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้ขอเริ่มกันที่ พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว อ.นคร ชัยศรีจ.นครปฐม ที่ท่านได้สร้างไว้มากมายหลายอย่าง ในทุกวันนี้ได้รับความ ศรัทธาสนใจกันอย่างกว้างขวาง  และล้วนมีราคาแพงทั้งสิ้น "คมเลนส์ส่องพระ" ได้นำเสนอไปแล้วหลายพิมพ์วันนี้มีมาให้ชมกันอีก คือ พระเนื้อดินเผาซึ่งมีทั้งแบบพระแผงขนาดใหญ่สำหรับตั้งโต๊ะบูชาและแบบพระเครื่อง สำหรับบูชาติดตัว ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๖ขณะที่ท่านมีอายุราว๖๕ ปี นับมาถึงวันนี้ พระเนื้อดินเผาซึ่งนับเป็นพระเครื่องรุ่นแรกๆของท่านมีอายุได้ ๙๔ปี เข้าไปแล้วอีก ๖ ปีก็จะเป็นวัตถุโบราณทันที  

** พระเนื้อดินเผาหลวงปู่บุญ ที่ ท่านได้สร้างไว้มีอยู่๒๐ พิมพ์ อาทิ พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่ พิมพ์ปรกโพธิ์เล็ก  พิมพ์สามเหลี่ยมสมาธิขัดเพชร (ใหญ่-เล็ก) พิมพ์นาคปรก (ใหญ่-เล็ก) พิมพ์ ซุ้มรัศมี ฯลฯ ** วันนี้ขอนำเสนอ พระพิมพ์นาคปรกเล็ก มาให้ชมเป็นวิทยาทาน  เป็นพระของ สุขเกษมปาริชาติดุสิต เจ้าของบริษัท อรรถสาส์นจำกัดผู้จัดจำหน่ายนิตยสารดังๆ (ร้อยกว่าชื่อ)ทั่วประเทศ และเป็นนักสะสมพระเครื่องระดับแนวหน้าอีกท่านหนึ่งที่กำลังมาแรงในขณะนี้

 ** พระนาคปรก(เล็ก) เนื้อดินเผา หลวงปู่บุญ พิมพ์ ทรงแบบกลีบแหลม องค์พระประทับนั่งสมาธิขัดเพชร พระอุระ (หน้าอก) ผึ่งผาย  บึกบึน อาสนะเป็นฐานบัวหงายชั้นเดียว ๗ กลีบ ปลายแหลม มีเส้นรองรับ พญานาค แผ่พังพาน ๕ เศียร ขนาดองค์พระ สูง ๒ ซม. กว้าง ๑ ซม.เศษ ด้านหลังอูมเล็ก น้อย นับเป็นพระเครื่องที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดน่ารักมาก  แต่ราคาเช่าหาไม่ เล็กตามขนาดขององค์พระเลย  

** พระยอดขุนพล เป็นพระเครื่องขนาดเขื่อง มีซุ้มลวดลายประดับอย่างดงามอลังการยิ่ง ด้วยชื่ออันสื่อถึงความเป็นผู้นำ  เป็นนักรบระดับแนวหน้า พระพิมพ์นี้จึงเป็นที่นิยมชมชอบของบรรดานายทหารหาญ ทุกเหล่าทัพ ไม่ว่าจะมียศไหนตำแหน่งใดก็ตาม เพราะเป้าหมายของนายทหารทุก ท่าน คือ ตำแหน่ง นายพล ทั้งนั้น ** พระยอดขุนพล เป็นพระเครื่องที่มีพุทธศิลป์สมัยลพบุรี มีทั้งแบบเนื้อดินเผา และเนื้อชิน ขุดพบจากหลายกรุหลายเมือง ที่รู้จักกันดีคือ กรุเมืองลพบุรีกรุเมืองกำแพงเพชร และ กรุเมืองกรุงศรีอยุธยา ** วันนี้ขอนำเสนอ พระยอดขุนพลเนื้อดินเผา กรุเมืองกำแพงเพชร มาให้ชมเป็นวิทยาทานกันก่อน เป็นพระของ นพ.พัฒนพงศ์เส็งพานิช โรงพยาบาลลำปาง   

** พระองค์นี้ เป็นพระเนื้อดิน ที่มีความละเอียดตามลักษณะของพระเมืองกำแพงเพชรอย่างแท้จริง ในเนื้อพระมี ว่านแร่ดอกมะขามสี แดงเม็ดเล็กๆปรากฏอยู่ทั่วไป  ผิวพระมีคราบกรุบางๆ ติดอยู่ประปราย เพิ่ม เสน่ห์และความเข้มขลัง  อีกทั้งยังทำให้พิจารณาง่ายถึงความเก่าแก่หลายร้อย ปี...พรุ่งนี้มีภาพ พระยอดขุนพลเนื้อชินเงิน กรุวัดพระศรีมหาธาตุจ.ลพบุรี  มาให้ชมกันอีก...โปรดติดตาม 

 ** พระกริ่ง๗ รอบ วัดบวรนิเวศวิหาร๒๔๙๙ เป็นพระกริ่งที่จำลองมาจาก  พระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร  องค์พระกริ่งจึงไม่มีหม้อน้ำมนต์ที่พระหัตถ์  ส่วนด้านหลังมีเลข ๗ตรงบัวคว่ำบัวหงาย๒ กลีบ ซึ่งหมายถึงพระชนมายุ ๗รอบ (๘๔ พระชันษา) ของ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารซึ่งเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ใน พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คราวทรงพระผนวช ระหว่างวันที่ ๒๒ ตุลาคม-๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๙  

** พระกริ่ง๗ รอบ รุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสทำบุญฉลองพระชนมายุครบ ๗ รอบของ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯดังกล่าวโดยมีกำหนดพิธีเททองในวันที่ ๒-๓ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ แต่พอถึงกำหนดเวลา ปรากฏว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯทรงพระประชวรจึงทรงมอบหมายให้ พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีเททองแทน  นับได้ว่า พระกริ่ง๗ รอบ เป็นพระกริ่งเพียงรุ่นเดียวที่ พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง ประกอบพิธีเททองขณะทรงพระผนวช จึงเป็นที่แสวงหาของนักสะสมพระกริ่งโดยทั่ว กัน  ทำให้ราคาเช่าหาพุ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ สมัยหนึ่งเคยขึ้นไปถึงหลักแสนต้น  แต่ในทุกวันนี้ ราคาจริงๆ ลงมาอยู่หลักหมื่นปลายๆ  

** พระกริ่ง๗ รอบ องค์นี้เป็นพระของเทียมวันทวิน เจ้าของโรงงานตัดเย็บสูทสากลเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองไทย ได้สะสมพระเครื่องมานานปี สมัย สนามพระวัดราชนัดดากำลังคึกคักก็ได้เข้าสู่วงการแล้ว แต่เป็นนักสะสมประเภทไม่ชอบปรากฏตัว จึงไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก  นอกจากคนใกล้ชิดเท่านั้น เทียมบอก ว่าพระกริ่งองค์นี้เช่ามาสมัยนั้นประมาณ ๑,๐๐๐ บาทเท่านั้น  มาถึงวันนี้ ราคาอยู่ที่หลายหมื่นบาท ก็รู้สึกภูมิใจ ที่เก็บพระมาถูกทาง  โอกาสหน้าจะ เอาภาพพระองค์อื่นๆ ที่เก็บสะสมเก่าเอาให้ชมกันอีก ** หน้าพระเครื่อง "คม ชัด ลึก" หลายฉบับก่อนได้นำเสนอเรื่อง พระพุทธฉายวัดสิงห์ ต.พระงามอ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี  หลายท่านเกิดความศรัทธาเลื่อมใส เดินทางไปกราบไหว้บูชา ได้รับโชคลาภกันถ้วนหน้า  โดยเฉพาะ ไพศาลถิระศุภะ ผู้นำเรื่องนี้มาเผยแพร่  โชคดีสุดๆ หลังจากเดินทางไปดูงานที่ประเทศเกาหลีกลับมาแล้ว ปรากฏว่าได้เลื่อนตำแหน่งจาก "รองผู้อำนวยการ" ขึ้นเป็น "ผู้อำนวยการฝ่าย" ฝ่ายวิจัยและพัฒนา โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง...ขอแสดงความยินดีด้วย 

** พร้อมกันนี้ ท่านผอ.ไพศาล ได้ฝากข่าว งานทอดกฐินสามัคคีของวัดสิงห์ซึ่งมีกำหนดทอดในวันอาทิตย์ที่๔ พฤศจิกายน นี้เวลา ๐๙.๕๐ น.ผู้ที่เดินทางไปร่วมทำบุญทอดกฐินครั้งนี้  นอกจากจะได้กราบไหว้ขอพรองค์ พระพุทธฉาย อันศักดิ์สิทธิ์ ที่มีผู้ประสบความสำเร็จในการบนบานศาลกล่าวมาแล้วมากมาย  ยังจะได้ รับแจกฟรีวัตถุมงคลพระพุทธฉายเนื้อผงพุทธคุณ และ ผ้ายันต์สิงห์เดี่ยว สร้างตามตำรับวัดสิงห์อีกด้วยสอบถามเส้นทางไปวัดได้ที่ พระอธิการแสวงอภินันโท เจ้าอาวาสวัดสิงห์โทร.๐-๓๖๕๙-๘๖๘๕, ๐๘-๗๑๑๘-๔๔๒๒ 

** สำนักศิลปะและวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ร่วมกับวัดบุปผารามวรวิหารจัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่จำนวน ๙ รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๘๐ พรรษา เมื่อวันที่๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๐ โดย ผศ.ชุมพลศิลปอาชา นายกสภามหาวิทยาลัยเป็นประธานพิธีปลงผมนาค และทำขวัญนาค ซึ่งมี ชินกรไกรลาศ ศิลปินแห่งชาติและดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เป็นหมอทำขวัญนาค  เช้าวันที่ ๑๒ ตุลาคม เวลา ๐๘.๐๐น. ผศ.อารีย์วชิรวราการ อธิการบดี และ ดร.ผดุงชาติสุวรรณวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานนำนาคไปบรรพชาและอุปสมบท ณ วัดบุปผารามฯ โดยมี พระอุดมศีลคุณเจ้าอาวาสวัดบุปผารามฯเป็นประธานสงฆ์  การบรรพชาและอุปสมบทครั้งนี้ มีนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยคุนหมิงสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมบรรพชาเป็นสามเณรด้วย ๒ รูป  และจะอยู่ปฏิบัติธรรมจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้...ขออนุโมทนาในข่าวอันเป็นสิริมงคลครั้งนี้ด้วย 

** ข่าวการกุศล...ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคีณ วัดทรงเมตตาวนารามต.บาง เสร่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันอาทิตย์ที่ ๒๘ ตุลาคม เวลา ๑๓.๐๐ น. และร่วม พิธีเททองหล่อพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐาน ณ สถานที่พระพุทธ องค์ประสูติ เมืองลุมพินีวัน ประเทศเนปาล สถานที่พระพุทธองค์ตรัสรู้  เมืองพุทธคยา สถานที่ปรินิพพาน เมืองกุสินารา และสถานที่แสดงธรรมครั้งแรก  เมืองสารนาถ ประเทศอินเดีย ขนาดหน้าตัก ๒๕.๕๐ เมตร สูง ๓๘ เมตร (๘๐ ฟุต  เท่าอายุของพระพุทธเจ้า) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา  มูลค่าองค์ละ ๙,๙๙๙,๙๙๙ บาท และร่วมเฉลิมฉลอง พระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน ที่สร้างเสร็จแล้ว ณ วัดไทยกุสาวดีประเทศอินเดีย ในวันมาฆบูชา วันเพ็ญเดือน ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ** พบกับ "คมเลนส์ส่องพระ" ได้ใหม่ในวันพรุ่งนี้...นะมัสเต*** 0แล่ม จันท์พิศาโล 0 ที่มา...