ReadyPlanet.com


"กาลามสูตร"


ยกย่อง"กาลามสูตร" ให้"ระบบการศึกษาไทย" เสียทีเถิด แล้วมองข้าม"กาลามสูตร" ที่มี 10 ข้อ ให้ไม่เชื่อสื่งต่างๆ

คอลัมน์ สยามประเทศไทย

โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ
วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11239 มติชนรายวัน
ที่มา... มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/
สังคม ไทยถูกครอบงำโดย"วัฒนธรรมเถรวาทไทย" ที่กำหนดให้ผู้น้อยอยู่ในอำนาจผู้ใหญ่ นักเรียนอยู่ในคำสั่งสอนของครูอาจารย์อย่างจำนน เพราะไม่อนุญาตให้สงสัย ทักท้วง ถกเถียง เลยไม่ให้ความสำคัญ"กาลามสูตร"ที่มีพลังสร้างวิถีคิดด้วยตนเอง

ผลของวัฒนธรรมเถรวาทไทย แสดงออกหลายอย่างมานานมากแล้ว แต่สังคมไทยไม่ยอมรับความจริงที่แสดงออกให้เห็นนั้น เลยไม่แก้ไข ไม่ปรับปรุง ไม่พัฒนา ทำให้อยู่ในเกณฑ์"ทันสมัย แต่ไร้สมอง"

ล่าสุดมีข่าว"ประจาน"เผยแพร่ทั่วไปให้ละอายว่านักเรียนไทยได้คะแนนวิชาที่ ว่าด้วยความคิด คือ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยนานาชาติ ทำให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) ร้อนใจจนต้องเรียกร้องให้มีแผนวาระแห่งชาติเพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการส อน และการวัดผลที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าระบบ"ปรนัย"ที่ใช้การอยู่ (มติชน ฉบับวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2551 หน้า 22)

เหยื่อ ของระบบการศึกษาไทยใน"วัฒนธรรมเถรวาทไทย" ที่เน้น "ทันสมัย" แต่ "ไร้สมอง" ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ถูกผูกมัดรัดรึงด้วยเครื่องแบบ


บทนำของมติชน (ฉบับวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2551) ให้ความสำคัญเรื่องนี้แล้วกล่าวตรงๆว่า

"พูดอย่างไม่อายชาติอื่น ไม่ใช่แค่วิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่นักเรียนชั้น ม.2 สู้ประเทศอื่นเขาไม่ได้ ซึ่งเป็นวิชาที่ว่าด้วยความคิด การใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยศาสตร์ ลำพังแต่วิชาทางด้านสังคมซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตของเด็กและ เยาวชนที่ควรจะเรียนรู้และปรับตัวให้อยู่กับสังคมและธรรมชาติสิ่งแวดล้อมก็ ยังเอาตัวไม่รอด จึงไม่แปลกใจที่จะพบเห็นนักเรียนเห่อของนอกตามแฟชั่น ฟังเพลงและร้องเพลงที่ไม่เป็นภาษาไทย การแต่งกาย การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศตรงข้ามที่ไม่มีคำว่าอายอยู่ในจิตใจ การใช้จ่ายเงินทองฟุ่มเฟือย ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้กำลังสร้างความกังวลใจให้ผู้ใหญ่รุ่นปู่ย่า รุ่นตารุ่นยาย ว่าถ้าพวกตนสิ้นอายุขัยไปแล้ว จะฝากอนาคตของชาติไว้กับเยาวชนรุ่นลูกรุ่นหลานเหล่านี้ได้แค่ไหน

อย่างไรก็ดี การจะโทษเด็ก โทษเยาวชน หรือโทษครูอาจารย์ ย่อมไม่เป็นธรรม แต่ผู้ที่ควรถูกตำหนิคือ ผู้ปกครองประเทศและนักการศึกษาที่มีส่วนในการกำหนดทิศทาง นโยบายและแผนการจัดการศึกษาของชาติที่ปล่อยให้นักเรียนเป็นเหยื่อของสังคม อันเน่าเฟะ"

เด็กและเยาวชนไม่ผิดเรื่องนี้ เพราะพวกเขาเป็นเหยื่อของระบบที่สร้างขึ้นมาโดยครูอาจารย์, นักการศึกษา, นักการเมือง ผู้มีอำนาจปกครองประเทศที่ปรารถนาพลเมือง"หัวอ่อน"อยู่ในโอวาท เลยให้ความสำคัญ"วัฒนธรรมเถรวาทไทย" เห็นได้จากการเรียนการสอนใน"ระบบท่องจำ"(เหมือนท่องจำไปสวดปาฏิโมกข์) โดยเน้น "วัฒนธรรมเครื่องแบบ" เช่น เครื่องแบบนักเรียนนักศึกษา(เหมือนเครื่องแบบทหาร, ตำรวจ, หรือจีวรพระสงฆ์) แล้วมองข้าม"กาลามสูตร" ที่มี 10 ข้อ ให้ไม่เชื่อสื่งต่างๆเช่น ไม่เชื่อตำรา,ไม่เชื่อคำสอนต่อๆกันมา, ไม่เชื่อครู อาจารย์, ฯลฯ แต่ให้สงสัย ทักท้วง ถกเถียงอย่างมีเหตุผล แล้วใช้ความคิดตัวเองพินิจพิจารณาว่าเห็นอย่างไร

ทางแก้ระบบการศึกษาของสังคมไทย ต้องร่วมกันยกย่อง"กาลามสูตร"ของพุทธองค์ให้แพร่หลายทุกระดับ แล้วชำแหละ"วัฒนธรรมเถรวาทไทย"ให้เหลือแต่สาระที่ส่งเสริมความคิดด้วยตนเอง โดยวิธี"สั่งสม"ความคิดและความรู้ แล้วไม่ต้อง"สั่งสอน"อย่างชี้นิ้วเหมือนนายใช้บ่าวที่สถาบันการศึกษาไทยชอบ ใช้นัก


ผู้ตั้งกระทู้ News กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-17 21:45:18