แอลซีดี ทีวี เลือกซื้อ "แอลซีดี ทีวี" เลือกอะไร? เลือกอย่างไร?
โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์ pairat@matichon.co.th
ที่มา...http://www.matichon.co.th/

หลาย วันก่อนเพื่อนร่วมงานสองสามคนตั้งคำถามกับผมหลายเรื่องเกี่ยวกับโทรทัศน์ยุค ใหม่ที่เห็นวางขายกันตามห้างร้านต่างๆมากมายอยู่ในเวลานี้ พร้อมกับคำโฆษณาบรรยายสรรพคุณแบบชวนให้งงมากกว่าอย่างอื่น

คำถามสำคัญขมวดปมอยู่ตรงที่ว่า ถ้าจะเลือกซื้อ จะเลือกอย่างไร?

ผม เห็นว่าคำตอบเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่กำลังมองหา โทรทัศน์เครื่องใหม่สำหรับเป็นของขวัญให้กับตัวเองและครอบครัวในช่วงเทศกาล อย่างนี้อยู่ไม่น้อย ก็เลยรวบรวมเอามาขยายความให้ได้รับรู้อีกทางหนึ่ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็เก็บเกี่ยวเอาเป็นความรู้ไว้บอกเล่าใครต่อใครที่กำลัง อยากได้แอลซีดีทีวีไว้ประดับบ้าน

ผมไม่ค่อยห่วงใครต่อใครที่มีเงิน ถุงเงินถัง เพราะสามารถควักจ่ายซื้อเครื่องระดับไฮ-เอ็นด์ มาครอบครองได้ง่ายๆ แต่สำหรับคนทั่วๆ ไปอย่างเราๆ ท่านๆ จะควักกันแต่ละทีก็ต้องคิดกันหน่อย จริงไหมครับ

อันดับแรกก็คือ เรื่องขนาดจอว่าจะเป็นขนาดเท่าไหร่ดี เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องที่เราจะวางโทรทัศน์เป็นสำคัญ (ในความเห็นส่วนตัวของผม) คือถ้าห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ แล้วก็ไม่รู้จะเลือกซื้อขนาดมหึมา 70 นิ้วไปทำไมเหมือนกัน เหตุผลหนึ่งเบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือ ความละเอียดของภาพครับ เทคโนโลยีในการสร้างความละเอียดของจอภาพแอลซีดีตอนนี้มีอยู่จำกัดขนาดที่ ใหญ่โตขึ้นมาก็เหมือนเรานำเอาภาพเล็กๆ ไปขยายให้ใหญ่ขึ้นโดยไม่ได้เพิ่มความละเอียดของภาพนั่นแหละครับ ถ้าดูห่างๆ ละก็พอได้อยู่ แต่ถ้าไม่กี่เมตรละก็จะเห็นความ "ไม่สมบูรณ์แบบ" ของภาพชัดแจ๋วเลยทีเดียว

อย่าง ที่สองก็คือเรื่อง จะซื้อธรรมดาๆ ดีหรือจะเลือกที่พะตัวหนังสือ "HD" หรือ "FULL HD" ดี ตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่ว่านี้เป็นเทคโนโลยีของจอภาพครับ หมายถึงการรองรับสัญญาณภาพที่มีความละเอียดสูง ซึ่งถ้าพูดแค่นี้ก็คงดีกว่าแน่นอนครับ แต่เจ้าเทคโนโลยีนี้มันจะให้ประสิทธิภาพสูงสุดออกมาก็ต่อเมื่อสัญญาณที่ใส่ เข้าไปมีความละเอียดสูงด้วยนะครับ นั่นหมายถึงว่า เราสามารถจะใช้ศักยภาพของมันเต็มที่ได้ก็ต่อเมื่อเรามีเครื่องเล่นดีวีดีที่ มีความละเอียดสูงตามไปด้วย ส่วนสัญญาณโทรทัศน์บ้านเราดีที่สุดก็เท่าที่เห็นกันนั่นแหละครับ เพราะการออกอากาศในบ้านเรายังเป็นระบบอนาล็อกอยู่ครับ

ดังนั้นใครที่ ติดดีวีดีมากกว่าดูโทรทัศน์ก็เลือกซื้อหาได้ แต่ถ้าดูโทรทัศน์เป็นส่วนใหญ่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องรองลงไป แม้ว่าถ้าเปรียบเทียบกันแล้วจะแสดงผลภาพออกมาดีกว่ากันก็ไม่กี่มากน้อยหรอก ครับ

ผมบอกเรื่องนี้ไปเพื่อไม่ให้ใครหลายคนที่ซื้อโทรทัศน์ที่มีความ ละเอียดสูงไปแล้วผิดหวังเท่านั้นแหละครับ เพราะส่วนใหญ่ แอลซีดี ทีวี ยุคนี้ดูเหมือนจะเป็น "HD" หรือ "FULL HD" กันไปหมดแล้ว "SD" หรือที่เป็น "สแตนดาร์ด" นั้นแทบไม่เหลือให้เห็นแล้ว

การเลือกซื้อโทรทัศน์ทุก วันนี้ขึ้นอยู่กับตัวเลขหลายๆ ตัวทีเดียว อันดับแรกสุดที่ต้องดูก็คือ ค่าความละเอียดหรือ รีโซลูชั่นที่ว่านี้แหละครับ ตัวเลข 1920X1080p คือค่าที่ว่าของ "HD" หรือ "FULL HD" นั่นแหละครับ ตัวเลขตัวที่ 2 ที่ต้องดูก็คือ ค่าการตอบสนองของจอที่เรียกว่า เรสปอนด์ ไทม์ ตอนนี้ว่ากันอยู่ที่ 4 มิลลิเซคันด์ครับ (ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งดี) ระดับนี้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้วละครับ สุดท้ายที่ต้องดูกันเป็นพื้นฐานก็คือ ตัวเลขของ รีเฟรช เรต คืออัตราการกะพริบของหน้าจอ เขาวัดกันเป็นความถี่ครับ ระดับที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 100Hz ต่ำกว่านี้ จะมีปัญหาเมื่อเราดูภาพเคลื่อนไหวอย่างเช่นภาพยนตร์แอ๊คชั่น ที่มีฉากขับรถซิ่งไล่ยิงกันกระหน่ำอะไรเทือกนั้น หรือแม้แต่ดูกีฬาที่เคลื่อนที่เร็วๆ ก็จะเกิดอาการ "เบลอร์" มัว หรือ มีรอยหยักตามขอบภาพขึ้นครับ

โทรทัศน์ แอลซีดีที่มีขนาดจอเล็กๆ มักใช้รีเฟรช เรตที่ 50 Hz ครับ เพราะถือว่าขนาดจอและความละเอียดภาพจะช่วยได้ แต่เจอหนังแอ๊คชั่นทีไร เจ๊งทุกทีเหมือนกัน

แต่ตัวเลขที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่เป็นตัวกำหนด คุณภาพของโทรทัศน์แอลซีดีทั้งหมดนะครับ ไม่อย่างนั้นทุกเจ้าก็คงออกมาเหมือนกันหมด มันยังมีเทคโนโลยีภายในอีกมากที่เป็นตัวกำหนดคุณภาพของภาพ สี และ ความสมบูรณ์ของภาพ ปัญหาอยู่ที่ว่าทั้งหมดนี้ไม่มีค่าอะไรวัดให้เห็นเป็นตัวเลขครับ (ถ้ามีก็คงยุ่งยากเกินไปสำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆ) วิธีของผมก็คือ ใช้ตาเรานี่แหละครับเป็นตัวตัดสิน

อย่างแรกสุดก็คือ อย่าไปเชื่อภาพที่ทางร้านเขาเปิดโชว์ให้เราดูกันครับ อย่างพวกแอนิเมชั่น หรือภาพนิ่งทั้งหลายที่เขาบรรจงถ่ายมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ขอให้ทางร้านเขาต่อสัญญาณโทรทัศน์ (หรืออย่างน้อยที่สุดก็ดีวีดีเรื่องที่เราดูจนคุ้นตา จำได้ทุกซีน เป็นหนังแอ๊คชั่นยิ่งดี) ให้เราดูเป็นดีที่สุด จับตาดูให้ละเอียดหน่อยว่า เมื่อกล้องแพนไปมานั้น ขอบของตัวคน หรือ สิ่งของ เกิดรอยหยักขึ้นหรือเบลอร์หรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นฉากหลังของการขับรถไล่ล่ากันนั่นแหละครับ ดูส่วนของภาพที่เป็นสีดำว่า ดำสนิทแค่ไหนมีรายละเอียดในความดำหรือเปล่าหรือแค่เป็นปื้นของสีดำซึ่งแสดง ให้เห็นว่าการประมวลผลของเครื่องไม่ดีเท่าที่ควร

สีสันของภาพเป็น เรื่องที่ยากจะตัดสินชี้ขาดนอกจากตัวผู้ซื้อเองละครับ โทรทัศน์บางยี่ห้อให้สีสันที่เป็นธรรมชาติอย่างมาก แต่บางยี่ห้อให้สีจัดจ้านและอิ่มจริงๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบละครับ ขออย่างเดียว อย่าแดงแบบเป็นปื้นๆ แต่ขาดรายละเอียดในสีก็แล้วกัน

รายการ กีฬาถือเป็นการทดสอบทีวีแอลซีดีที่ดีมากๆ เลยละครับ ช่วงที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ผมมักแกร่วอยู่แถวห้างเป็นนานสองนาน ดูเครื่องโน้นทีเครื่องนี้ที ดูภาพมุมกว้างว่าทำให้สีเสื้อของนักเตะเบลอหรือเปล่า ดูพื้นสนามว่า มันเขียวก็จริง แต่เขียวปื้นๆ ขาดรายละเอียดไปหรือเปล่า ดูฉากหลังซิว่ารายละเอียดของผู้ชมบนอัฒจรรย์มีมากน้อยแค่ไหน แล้วมาเปรียบเทียบกัน

เรื่องสุดท้าย คุณไม่จำเป็นต้องตัดสินใจซื้อในทันทีครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราวนเวียนไปร้านขายโทรทัศน์เกินกว่าหนึ่งครั้ง ดูจนพอใจละครับ ถ้าโดนต่อว่า หาร้านใหม่ได้เลย

ก็มันเงินในกระเป๋าเป็นของเรานี่นา!!