ผู้บริหารกอล์ฟ... รวยสุดในโลก

คอลัมน์ ขึ้นแท่นปักที โดย พิษณุ นิลกลัด ที่มา...http://www.matichon.co.th/prachachat/ พี จีเอ ทัวร์ เป็นการแข่งขันกอล์ฟที่มีเงินรางวัลมากที่สุดในโลก หัวหน้าใหญ่สุดของพีจีเอ ทัวร์ก็เป็นผู้บริหารกอล์ฟที่มีรายได้มากที่สุดในโลกเช่นกัน สปอร์ตส์ บิสซิเนส เจอร์นัล เปิดเผยว่า ทิม ฟินเชม ผู้อำนวยการพีจีเอ ทัวร์มีรายได้ 4.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2007 ซึ่งเท่ากับนักกอล์ฟที่ทำเงินรางวัลได้มากที่สุดอันดับ 3 ของ พีจีเอ ทัวร์ของปีที่แล้ว ฟินเชมได้เงินเดือน 1.3 ล้านดอลลาร์, โบนัส 3.2 ล้านดอลลาร์ และผลประโยชน์อื่นๆ 240,000 ดอลลาร์ในปี 2007 ซึ่งลดลง 400,000 ดอลลาร์จากปี 2006 ปี 2006 เป็นปีที่ฟินเชมมีรายได้มากที่สุด 5.2 ล้านดอลลาร์เนื่องจากเขาได้รับโบนัสเพิ่มจากผลงานที่โดดเด่นในปี 2005 ซึ่งเขามีรายได้ 4.2 ล้านดอลลาร์ ฟินเชมสมควรได้เงินเดือนและผล ประโยชน์อื่นๆ เป็นกอบเป็นกำเพราะว่าต้องบริหารเงินนับพันล้านหมื่นล้านดอลลาร์ในขุมทรัพย์ ของพีจีเอ ทัวร์ เอ็ด มัวร์เฮาส์ (1.6 ล้านดอลลาร์) กับ ชาร์ลี ซิงค์ (1.5 ล้านดอลลาร์) 2 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของพีจีเอ ทัวร์เป็นผู้บริหารของพีจีเอ ทัวร์ที่มีรายได้มากที่สุดรองจากฟินเชม ขณะที่ทอม เวดหัวหน้าฝ่ายการตลาดและ รอน ไพรซ์หัวหน้าฝ่ายการเงินมีรายได้คนละ 1 ล้านดอลลาร์ รายได้ของผู้บริหารระดับสูงของพีจีเอ ทัวร์และแอลพีจีเอ ทัวร์ต่างกันราวฟ้ากับดิน แค โรลีน บีเว่นส์ ผู้อำนวยการแอลพีจีเอ ทัวร์มีรายได้เพียง 710,812 ดอลลาร์ในปี 2006 ขณะที่ ไท โวทอว์มีรายได้ 478,897 ดอลลาร์ช่วงที่เขาเป็น ผู้อำนวยการแอลพีจีเอ ทัวร์ในปี 2004 ก่อนจะย้ายวิกไปอยู่กับพีจีเอ ทัวร์ ฟิน เชมจบปริญญาตรีด้านศิลปศาสตร์ เขาเรียนต่อทางด้านกฎหมาย และทำงานด้านกฎหมายอยู่พักหนึ่งก่อนจะเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้าน เศรษฐกิจในสมัยประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ ในปลายยุค 70 ฟินเชม รับตำแหน่งผู้อำนวยการพีจีเอ ทัวร์ต่อจากดีน บีแมนในปี 1994 ผลงานที่โดดเด่นของเขาคือ ทำให้พีจีเอ ทัวร์รวยขึ้นจากลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดโทรทัศน์ และนักกอล์ฟรวยขึ้นจาก เงินรางวัลที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ในปี 1994 พีจีเอ ทัวร์มีเงินรางวัลรวมเพียง 56.4 ล้านดอลลาร์ แต่เดี๋ยวนี้อยู่ในระดับ 200 กว่าล้านดอลลาร์ต่อปี บาง คนมองว่าฟินเชมถูก "หวยไทเกอร์" เพราะว่าหลังจากที่เขารับตำแหน่งผู้อำนวยการพีจีเอ ทัวร์ได้ไม่นาน ไทเกอร์ วูดส์ ก็เข้าสู่วงการกอล์ฟอาชีพ ในปี 1996 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเงินไหลมาเทมาสู่ พีจีเอ ทัวร์ อย่างไรก็ตาม ฟินเชมสมควรได้เครดิตจากการเติบโตของพีจีเอ ทัวร์เช่นกัน เขาเป็นคนเจรจา เรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดโทรทัศน์ 3 ครั้ง (ในปี 1997, 2001 และ 2005) ซึ่งทำให้พีจีเอ ทัวร์ มีรายได้เพิ่มขึ้นมาก เรื่องการเจรจา ฟินเชมคงไม่เป็นสองรองใคร เขาได้ทุนเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยริชมอนด์ ในฐานะนักโต้วาที ! ปีหน้า ฟินเชมคงต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อนำพีจีเอ ทัวร์ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ ซึ่งกระหน่ำ ทุกวงการ

ผู้ตั้งกระทู้ News :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-11 09:25:53