ReadyPlanet.com


computer ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ


computerใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
10 ขั้นตอนในการใช้คอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ | Miscellaneous
ปัญหา ที่เกิดขี้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นจะมีตั้งแต่เล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงความบกพร่องอย่างร้ายแรงที่จะทำให้งานของเราที่อุตส่าห์ทำเป็นเดือนๆ หายไปได้ในพริบตา หรือไม่สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์นั้นได้อีกเลย วิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์นั้นก็คือ ป้องกันก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
ขั้นตอนในการป้องกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลความสำคัญมากๆ ในเรื่องของการเก็บข้อมูล คือ ไม่ให้มีอุบัติเหตุซึ่งจะทำให้มันมีค่าที่สุด ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่เป็นอุปกรณ์ที่แพงที่สุดในเครื่องของเราก็ตามเป้า หมายของการป้องกันคือ เก็บข้อมูลของเราให้ปลอดภัย มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

1. รู้จักเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง
เราสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องของเราว่าอุปกรณ์อะไร รายละเอียดเป็นอย่างไร ได้ โดยดูที่ System Properties
1. โดยคลิ๊กเม้าปุ่มขวาที่ My computer
2. เลือก Properties จะปรากฏ System Propeties ขึ้นมา
3. ให้เราคลิ๊กที่ Tab Device Manager เราสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ภายในเครื่องของเราได้
ถ้าเรามีเครื่องพิมพ์ ก็สั่งพิมพ์มาเก็บไว้เลยจะเป็นการดีที่สุดป้องกันการลืม

2. สร้างแผ่นบู๊ตฉุกเฉินขึ้นมา
เมื่อ เราเครื่องของเรามีปัญหาไม่สามารถบู๊ตเครื่องจากฮาร์ดดิสก์ได้ เราก็ยังจะสามารถบู๊ตจากแผ่นบู๊ตฉุกเฉินที่เราสร้างขึ้นเอาไว้ได้ โดยไปที่
1. เลือกเมนู Start
2. เลือก Setting
3. เลือก Control Panel
4. กดดับเบิ้ลคลิ๊กไอคอน Add remove programs
5. ให้เลือกคลิ๊กที่ Tab Startup Disk แล้วใส่ แผ่น floppy disk ที่ทำการ format แล้วใน dirve a:
6. แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม Create Disk หลังจากเครื่องทำการสร้างแผ่นบูตเสร็จเรียบร้อย เราก็จะได้แผ่นบู๊ตฉุกเฉินขึ้นมาแล้ว

3. ปรับแต่งฮาร์ดดิสก์อย่างสม่ำเสมอ
เพราะฮาร์ดดิสก์เป็นที่ที่เก็บแอปพิลเคชั่นไว้อย่างถาวร และที่สำคัญมากคือไฟล์ข้อมูลที่สร้างด้วยแอพพลิเคชั่นเหล่านั้น
ดัง นั้นฮาร์ดดิสก์จึงจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างพิเศษเพื่อรักษามันให้ปฏิบัตการ ได้ที่ประสิทธิภาพสูงสุด การสแกนดิสก์ เพื่อหาไฟล์ที่สูญหาย (Lost) และเซ็กเตอร์ที่เสียหาย (bad sector) จะช่วยป้องกันปัญหาของดิสก์ทั้งหมดก่อน ที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่การ Defragment จะช่วยจัดเรียงไฟล์ที่แตกกระจัดกระจาย ให้เป็นระเบียบขึ้น
วิธีการสแกนดิสก์ทำได้ดังนี้
1. เลือกเมนู Start
2. เลือก Program
3. เลือก Accesorry
4. เลือก System Tools
5. เลือก Scan Disk

4. วางแผนในการเก็บรักษา
การ เก็บรักษาไฟล์ข้อมูลในโฟล์เดอร์เราจะต้องเก็บรักษาให้อยู่ในส่วนที่ค้นหา ง่ายและมีชื่อที่สามารถจดจำได้ง่าย จะช่วยลดความเสี่ยงที่เราจะลบโปรแกรมหรือข้อมูลเหล่านั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ อีกทั้งฮาร์ดดิสก์ที่มีการบริหารรวบรวมที่ดีจะสามารถทำ การแบ๊กอัปสำรองข้อมูลได้ง่ายกว่าและเร็วกว่า และไฟล์ไหนที่เราไม่ได้ใช้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน ควรจะลบไฟล์นั้นออกไป เพราะ ดิสก์ที่ใส่ข้อมูลมากๆ จนเกือบเต็มความจุของมันมักมีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดพลาดได้มากกว่า และช้ากว่าฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ได้ใส่ข้อมูลจนแน่น

5. สำรองข้อมูลที่มีค่าเอาไว้
การ แบ็กอัปไฟล์ของเรามีความหมายง่ายๆ ก็คือเป็นการทำสำเนาเผื่อเอาไว้ ถ้าต้นฉบับถูกทำให้สูญหายหรือเสียหายไป เราก็ยังสามารถนำเอาสำเนามาใช้ได้ เราสามารถแบ็กอัปฮาร์ดดิสก์ไปยัง Floppy disk หรือ Zip disk ได้ ถ้าเราทำธุรกิจมีข้อมูลที่สำคัญมากๆ เช่น ข้อมูลของสินค้า ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลด้านบัญชี มูลบุคคล เราควรจะแบ๊กอัปมันทุกๆวันเป็นมาตรฐานเอาไว้ แต่ถ้าเราเป้นผู้ใช้ตามบ้าน ก็ควรจะการแบ็กอัปไฟล์หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ และทำการแบ๊กอัป ทั้งระบบอย่างสมบูรณ์ทุกๆ 6 เดือน โดยเราสามารถใช้โปรแกรม Backup ดังนี้
1. เลือกเมนู Start
2. เลือก Program
3. เลือก Accesorry
4. เลือก System Tools
5. เลือก Backup
โปรแกรมนี้จะอนุญาติให้เราตรวจเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการจะแบ๊กอัป

6. ป้องกันไวรัส
แม้ ว่าไวรัสคอมพิวเตอร์ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องและข้อมูลของเรา ได้ ซึ่งในบางครั้งก็ดูออกจะเป็นเรื่องตื่นตระหนกจนเกินเหตุ แต่ความเป็นจริงแล้วไวรัสไม่สามารถที่จะทำอันตรายให้กับเครื่องและข้อมูลของ เราได้ ถ้าหากเราไม่ได้สั่งให้มันทำงาน (execute) ไวรัสนั้นติดมาได้ 2 ทาง คือ
1. จากแผ่นดิสก์อื่นที่เรานำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นที่เรายืมหรือก๊อปปี้ของเพื่อนมา หรือ แผ่นcd เถื่อนที่เราซื้อมาจากพันธุ์ทิพย์
2. จากอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมที่เราดาว์นโหลดมา หรือ ไวรัสที่ส่งมากับอีเมล์ วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือเราต้องไม่นำมาใช้ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้เราหาโปรแกรมสำหรับสแกนไวรัสมาสแกนไวรัสก่อนที่จะนำมาใช้ ยกตัวอย่างเช่น McAfee"s VirusScan ,Norton AntinVirus หรือ Pc-cillin
แต่ ในบางครั้งไวรัสตัวนั้นอาจเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่โปรแกรมเหล่านั้นยังไม่ สามารถตรวจสอบได้ เราก็จำเป็นต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมสแกนไวรัสเวอร์ชั่นใหม่ ๆ มาใช้งานจากเวบไซด์เหล่านั้น

7. ติดตั้งโปรแกรมไว้ที่เดิม
เมื่อ เราได้ติดตั้งโปรแกรมลงบนระบบของ window95 แล้วอย่าได้เปลี่ยนชื่อไดเร็กทอรี่ของโปรแกรมหรืออย่าได้ย้ายไฟล์ของมันจาก ที่ที่มันอยู่ไปไว้ที่อื่นๆ บนฮาร์ดดิสก์ของเรา มิฉะนั้นคอมพิวเตอร์จะหาแทร็กของคีย์ไฟล์ไม่เจอ ถ้าเราจะทำการลบ (delete) หรือยกเลิกการติดตั้ง (uninstall)
วิธีการลบ (delete) หรือยกเลิกการติดตั้งที่ถูกวิธีทำได้ดังนี้
1. เลือกเมนู Start
2. เลือก Control Panel
3. กดดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Add/Remove Programs
4. เลือกโปรแกรมที่เราต้องการจะลบ หรือ ยกเลิกการติดตั้ง
5. กดปุ่ม Add/Remove
หลัง จากกดปุ่ม Add/Remove แล้วจะปรากฏหน้าต่างการยกเลิกการติดตั้งให้ แต่มีบางไฟล์หรือบางกรณีที่จะต้อง ใช้คำสั่งลบออกได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านการลบด้วยกรรมวิธีขั้นต้น สามารถเข้าไปลบไฟล์เหล่านั้นได้เลย

8. ใช้แต่ของใหม่เสมอ
อุปกรณ์ ต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์จะมีโปรแกรมไดว์เวอร์ (driver) เพื่อพูดคุยติดต่อระหว่าง window95 กับ ฮาร์ดแวร์ของเรา จะเป็นการดีถ้าเราสามารถอัปเดตโปรแกรมไดว์เวอร์เหล่านั้นให้ทันสมัยอยู่ตลอด เวลา เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

9. รักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้สะอาดอยู่เสมอ
ฝุ่นสามารถทำให้ชิปภาย ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราร้อนขึ้นมามากกว่าธรรมดาและยังเป็นตัวขัดขวางการ ไหลเวียนระบายความร้อนของอากาศอีกด้วย อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งให้เราถอดปลั๊กต่างๆ และเปิดฝาเครื่องขึ้นมา และเป่าฝุ่นออก อย่าเช็ดด้วยเศษผ้า ให้ใช้ปากเป่าหรือกระป๋องอัดลมสำหรับฉีดลมอย่างใดอย่างหนึ่งในการเป่าฝุ่น

10. ปิดเครื่องด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
เมื่อ ใดก็ตามที่เสร็จการทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วจะเลิกการใช้งานเครื่อง คอมพิวเตอร์ อย่าได้ปิดเครื่องเลยทันที เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์มีการเก็บหน่วนความจำแคช ปิดไฟล์ และ เซฟข้อมูลคอนฟิกคูเรชั่นต่างๆ ก่อนที่เราจะปิดเครื่อง เราจำเป็นต้องต้องสั่งให้คอมพิวเตอร์ของเราชัตดาวน์ (shutdown) ก่อนเสมอ โดยไปที่ Start --> Shutdown แล้วกด OK เท่านี้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็จะจบการทำงานได้อย่างสวยงาม
ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงค่าใดๆให้ สร้างค่า SYSTEM RESTOREก่อนเพื่อกันข้อผิดพลาด
1.......ติดจรวดเล่นอินเตอร์เน็ตให้กับ Windows XP
การใช้งานอินตอร์เน็ตบางครั้งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลายด้าน เราก็ พยายามหาหนทางปรับแต่งให้ถูกใจ และถูกเงิน วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ทำให้การท่องอินตอร์เน็ตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
1. คลิกที่ปุ่ม Start
2. เลือกที่แถบรายการ Run
3. ที่ช่อง Open พิมพ์คำว่า gpedit.msc แล้วคลิก OK
4. จะแสดงหน้าต่างของการปรับแต่ง Group Policy
5. ที่ Computer Configaration เลือกแถบ Administrative Templates
6. หัวข้อ Network เลือกที่ QoS Packet Scheduler
7. มองหน้าต่างด้านขวามือ ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ Limit reservable bandwidth
8. จะปรากฎกรอบหน้าต่างใหม่ Limit reservable bandwidth Properties
9. เลือกแถบ Setting คลิกที่ช่อง Enable
10. ในช่อง bandwidth limit (%) : ปรับค่าเป็น 0
11. คลิก OK เพื่อยืนยันการใช้งาน แค่นี้เองลองนำไช้ดูครับ

2…….10 วิธีในการเพิ่มความเร็วในการเล่นอินเตอร์เน็ต
1. ติดตั้ง Driver ของ Modem ของคุณให้ถูกต้อง
ถือ ว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าการใช้ Driver ที่ถูกต้องจะทำให้เราสามารถใช้ความสามารถของโมเด็มได้มากที่สุด วิธีการตรวจสอบให้เข้า คลิกปุ่ม Start เลือก Control Panel จากนั้นคลิกไอคอน Modem แล้วคลิก General Tab ลองสังเกตดูว่าชื่อโมเด็มตรงกับที่ใช้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ใช้ให้ติดต่อบริษัทที่คุณซื้อมา หรือถ้าไม่สะดวกให้เข้าไปที่เวปไซท์ ของเจ้าของ Modem นั้น ๆ แล้วเลือก downlaod Driver ของ Modem ของคุณ เลือกเวอร์ชั่นล่าสุด

2. ซื้อโมเด็มที่มีความเร็วสูงสุด
เรื่อง ง่าย ๆ ครับ ถ้าอยากเร็วก็ซื้อโมเด็มที่เร็ว ๆ ถูกไหมครับ.. แต่อย่างไรก็ตาม ความเร็วของ PC ที่คุณใช้ก็ส่วนที่จะ ช่วยให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตเร็วขึ้นด้วย

3. โมเด็มตัวเดียวไม่พอ ใช้สองตัวซิครับ
ข้อ นี้ไม่ค่อยอยากแนะนำเพราะว่าคุณต้องเสียเงินเพิ่ม และเสียค่าโทรศัพท์ในการใช้งานเพิ่มด้วย แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่ต้อง การการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เร็วมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการใช้ Modem 2 ตัวได้นั้น จะต้องขึ้นกับทาง ISP ที่คุณใช้ บริการว่า support Modem 2 ตัวหรือไม่ ยังไงก็สอบถามก่อนน่ะครับ

4. เลือก ISP ที่เร็วและดีที่สุด
ผม ก็เป็นผู้หนึ่งที่ใช้บริการกับหลายๆ ISP แต่ก็ยังไม่ค่อยถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Support หรือเรื่องระบบ หลาย ๆครั้ง เกิดปิดระบบดื้อ ๆ (แก้ไข Server) กว่าจะรู้ว่าทำให้วันนั้นทั้งวันผมต้องเสียเวลาตรวจสอบระบบภายใน นึกว่าของตนเอง เสียหาย ดังนั้น วิธีง่าย ๆในการเลือก ISP มาใช้คือ ใช้ชุดอินเตอร์เน็ตสำเร็วรูปสัก 10 ชั่วโมง แล้วลองใช้ดูก่อน

5. เลือกหมายเลขโทรศัพท์ในการเชื่อมให้ถูกต้อง
ข้อ นี้สำคัญมาก เนื่องจากหลาย ๆ ท่านยังไม่เข้าใจ ISP จะมีบริการอินเตอร์เน็ตหลายๆ ระดับ ขึ้นกับความเร็วของ Modem ของคุณ เช่น ถ้าใช้ Modem 33.6 kbps จะต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์เบอร์ใด และถ้าคุณใช้ Modem 56 kbps คุณจะต้อง ใช้โทรศัพท์เบอร์ใด แต่อย่างไรก็ตามถ้าคุณใช้เบอร์ผิด อาจติดต่อได้ แต่นั่นทำให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตช้าลงได้

6. หลีกเลี่ยงความแออัดของการจราจรบนอินเตอร์เน็ต
เวลา ที่ถูกว่าจะมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตมากคือเวลา 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน ดังนั้น ถ้าคุณสามารถหลีกเลี่ยงเวลาดังกล่าวได้ ย่อมมีส่วนอยู่บ้างที่จะช่วยให้คุณใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เร็วมากยิ่งขึ้น

7. ตั้งค่า Buffers ให้มากขึ้น
ถ้า คุณใช้ Modem แบบ UART รุ่น 16550 หรือใกล้เคียง และใช้ Windows 95,98/NT ให้ลองปรับเปลี่ยนค่า Buffers โดยการคลิกปุ่ม Start เลือก Control Panel คลิกไอคอน Modems คลิกเลือก Properties คลิกอีกครั้งที่ Connection tab คุณจะพบแถบสไลด์ที่มีข้อความ Port Setting ให้ปรับค่า Receive Buffers และ Transmit Buffers ไปทางขวา เป็น การเพิ่ม Buffers ให้มากขึ้น จะทำให้คุณเล่นอินเตอร์เน็ตได้เร็วมากขึ้น

8. ตั้งค่า Ports ให้เหมาะสม
ให้ ทดลองเปลี่ยนค่าความเร็วของ Port ให้เป็น 57,600 หรือ 115,200 bps โดยเข้าไปที่ Modem เลือก Properties ดูที่ช่อง Maximum speed หลังจากติดตั้งค่า Modem แล้ว ให้ปรับค่าความเร็วของ Port ใน Device Manager ด้วย โดยคลิกที่ Control Panel เลือกไอคอน System คลิกเลือก Device Manager แล้วเลือก Ports และคลิกหมายเลข Com Port ที่คุณ ติดตั้งโมเด็มเอาไว้ เลือก Port Settings (ข้อความ Flow Control ถูกเลือกเป็น hardware) จากนั้นกำหนดค่า 57,600 หรือ 115,200 ให้ตรงกับ Modem Properties ที่เลือกไว้ตอนต้น

9. ติดตั้งโปรแกรมช่วยปรับค่าและติด Turbo ให้กับเว็บบราวเซอร์ของคุณ
หลัง จากปรับค่าต่าง ๆแล้วยังไม่เป็นที่พอใจ ให้ลองติดตั้งโปรแกรมที่ช่วยในการปรับค่า และช่วยในการเพิ่มความเร็วโดยการ ตรวจสอบ Configuration ที่เหมาะสมสำหรับ ISP ของคุณ (ซึ่งแต่ละ ISP จะไม่เหมือนกัน) โปรแกรมเหล่านี้ได้แก่ internet Turbo, Web Turbo

10. ลบข้อมูลใน Cache และปรับแต่ง Harddisk
ให้ ทดลองเปลี่ยนค่าความเร็วของ Port ให้เป็น 57,600 หรือ 115,200 bps โดยเข้าไปที่ Modem เลือก Properties ดูที่ช่อง Cache คือพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณมีพื้นที่ใน Harddisk ไม่มากพอ คุณควรลบ Cache ออกบ้างโดยเข้าไปที่ เว็บบราวเซอร์ของคุณ IE 5 คลิก Tools เลือก Internet Options เลือก Temporary Internet files ให้เลือก Delete files (Files เหล่านี้คือ files ที่ถูก save ไว้ขณะที่คุณเล่นอินเตอร์เน็ต) จากนั้นให้คุณปรับแต่ง Harddisk ด้วยการเลือกคำสั่ง ฃ Scandisk และ Disk Defragmenter ซึ่งคำสั่งนี้อยู่ที่เมนู Accessories เมนูย่อย System Tools

3…..เร่งความเร็วเน็ตให้ XP
ทิป นี้สำหรับผู้ใช้ Windows XP Professional ที่ต้องการเพิ่มความเร็วในการท่องเน็ต โดยจุดเริ่มต้นของไอเดียที่ใช้ปรับแต่งมาจากว่า ค่าเริ่มต้นของ Packet Scheduler ในระบบจะถูกจำกัดไว้ที่ 20% ของแบนด์วิดธ์ที่เชื่อมต่อเท่านั้น ข่าวดีคือ คุณแก้ไขมันได้

ขั้นตอนแรก ให้คุณล็อกอินเข้าระบบด้วยบัญชีผู้ใช้เป็น Administrator (อย่าใช้แอคเคาต์อื่นนะครับ)
เสร็จ แล้วให้คลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run ในกล่องข้อความ Open พิมพ์ gpedit.msc คลิกปุ่ม OK สังเกตุคลิกเครื่องหมายบวกที่อยู่หน้าไอเท็ม Local Computer Policy เพื่อดูออปชันต่างๆ ที่อยู่ภายใน จากนั้นคลิกต่อที่หน้าไอเท็ม Administrative Templates จากนั้นคลิกหน้าไอเท็ม Network คลิกเลือกไฮไลท์หัวข้อ QoS Packet Scheduler ในกรอบหน้าต่างทางซ้าย สังเกตุที่หน้าต่างด้านขวาให้ดับเบิ้ลคลิกบนหัวข้อ limit reservable bandwidth แท็บ setting ให้คลิกเลือกหัวข้อ enabled จากนั้นตรงตำแหน่งที่แจ้งว่า Bandwidth limit % ให้แก้เป็น “0” แล้วบู๊ตเครื่องใหม่

แปลกแต่จริง: การแก้ไขลักษณะนี้เราพบว่าในบางเครื่องไม่ต้องรีบู๊ตก็ใช้ได้เลยทันที ซึ่งไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่า ทำไม? แต่ก็เป็นปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ที่เรามักจะพบอะไรที่ชวนพิศวงในผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์

4…..โหลดหน้าเว็บให้เร็วขึ้น
WinTip ครั้งนี้ ขอแนะนำวิธีที่จะช่วยให้บราวเซอร์สามารถโหลดหน้าเว็บได้เร็วขึ้น แต่งานนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเร็วของการดาวน์โหลดนะครับ เพียงแต่มันจะช่วยให้พีซีสามารถค้นหาเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น ซึ่งทำให้หน้าเว็บถูกโหลดเร็วขึ้น และทำให้การท่องเว็บสนุกยิ่งขึ้น

เทคนิค นี้ยังคงต้องอาศัยการแก้ไขข้อมูลในรีจิสทรี โดยคลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run พิมพ์คำสั่ง regedit เข้าไปในช่องข้อความ Open: (หรือกดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ Run ก็ได) ซึ่งใน Windows แต่ละเวอร์ชันก็จะมีตำแหน่งของการแก้ไขรีจิสทรีที่แตกต่างกันไปดังนี้

สำหรับWindows XP และ 2000
HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetServicesTcpipServiceProvider

สำหรับ 98, 98SE และ ME
HKEY_LOCAL_MACHINESystemCurrentControlSetServicesVxDMSTCPServiceProvider

ในกรอบด้านขวามือให้แก้ไขค่าของตัวแปรข้างล่างนี้ โดยค่าทั้งหมดที่แก้ไขให้ใช้ชนิดข้อมูลเป็น HEXADECIMAL

Class: 1
DnsPriority: 1
HostsPriority: 1
LocalPriority: 1
NetbtPriority: 1

คราวนี้ ลองท่องเว็บดูนะครับ คุณจะพบกับความเร็วในการโหลดหน้าเว็บที่รู้สึกได้

ข้อมูลจาก นิตยสาร WinMag

5…..เปิดหน้าต่าง IE ให้เร็วขึ้น XP
เมื่อใช้งานโปรแกรม IE (Internet Explorer) ไปนาน ๆ ทำไมโปรแกรมช้าลงทุกที สามารถทำให้เร็วเหมือนตอนติดตั้งครั้งแรกได้ โดยมีขึ้นตอนดังนี้
1. คลิกที่ปุ่ม Start > Run
2. ที่ช่อง Open พิมพ์คำว่า regedit แล้วคลิก OK
3. เลือกที่ HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftWindowsCurrentVersion ExplorerRemoteComputerNameSpace
คลิกขวาที่ {2227A280-3AEA-1069-A2DE-08002B30309D} เครื่องอาจไม่เหมือนนี้
4. เลือกคำสั่ง Delete
5. จะปรากฎกรอบรายการ ให้คลิก Yes เพื่อยืนยันจากนั้นปิดหน้าต่าง Registry Editor จะพบว่าเน็ตเร็วขึ้นทันใจ

6…..เพิ่มความเร็วเน็ตด้วยการใส่ค่าพร็อกซี่
1. ขั้นตอนง่าย ๆ นี้ช่วยให้เราท่องเน็ตได้เร็วขึ้นอีกนิดก่อนอื่นต้องเปิดโปรแกรม IE แล้วไปที่เมนู Tools > Options…
2. เลือกแท็บ Connections ดุที่กรอบ Dial-up and Virtual Private Network settings เลือกชื่อ ISP ที่ใช้อยู่แล้วกด Setting…
3. ติ๊กถูกที่ User a proxy server for this connection (These settings will not apply to other connection) กับ Bypass proxy server for local addresses ใส่ที่อยู่ของ ISP ที่ช่อง addres: และ Port ให้ถูกต้อง (สอบถามได้จาก ISP ที่คุณใช้อยู่) เสร็จแล้วคลิกที่ Advanced… แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ (ถ้าไม่ทราบให้สอบถามได้จาก ISP ที่คุณใช้อยู่)
4. คลิก OK จนออกจากหน้าต่าง Internet Options

7…..เรียกเว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่ทันใจจะทำอย่างไรให้เร็วขึ้นอีก
วิธี หนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถเข้าไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วนั่นคือการสร้างจุดเชื่อมโยงที่ Toolbar Link สำหรับเรียกเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยมีขั้นตอนสร้างดังนี้

1. ที่หน้างต่างเว็บเพจ ในตำแหน่ง Address Bar ให้เราคลิกเมาส์ซ้ายค้างที่รูปตัว E หน้าชื่อของเว็บไซต์
2. แล้วลากไปวางในตำแหน่ง Toolbar Link
3. เพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างปุ่ม Link ตำแหน่ง Toolbar Link ไว้เรียกเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

จากคุณ : com.com ...บอร์ด pantip.com



ผู้ตั้งกระทู้ News กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-09 20:28:03