ReadyPlanet.com


ชีวิตมากับดวง ณัฐพงษ์ ธนกรดิษฐ์


ชายหนุ่มดวงเฮง ผมไม่ศรัทธาคนที่ชอบไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วขอพรให้ตัวเองดี ร่ำรวย แต่ในชีวิตยังทำบาปอยู่
โดย ชมพูนุท นำภา


" นี่ นี่ จำเพื่อนเราที่เคยเล่าให้ฟังได้ไหม คนที่ชอบส่งชิงโชคแล้วได้รางวัลบ่อยๆ ไง เนี่ย...ล่าสุดได้รางวัลอีกแล้วนะ คราวนี้ได้ไปทัวร์ญี่ปุ่น 2 ที่นั่งแน่ะ..." เสียงจากปลายสายโทรศัพท์ละล่ำละลักบอกเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของเพื่อนสมัย มัธยมของตัวเองอย่างตื่นเต้น

หากใครเคยได้รับฟังเรื่องราวของชายหนุ่มผู้โชคดีคนนี้ก็จะต้องประหลาดใจไปกับความโชคดีสุดสุดของเขาไม่น้อยเช่นกัน

เพราะ คนอะไร ไม่ว่าจะส่งชิ้นส่วนหรือเข้าร่วมชิงโชครายการอะไรมักจะได้แทบทุกครั้ง เอาเป็นว่าส่งชิงโชค 10 ครั้ง ได้รับรางวัลกลับมาถึง 7-8 ครั้งนั่นแหละ

ชายหนุ่มผู้โชคดีที่ว่า คือ ณัฐพงษ์ ธนกรดิษฐ์ ชื่อเล่น "หยี่" วัย 30 ปี ปัจจุบันเป็นข้าราชการนักประชาสัมพันธ์ กระทรวงพลังงาน

เรื่องราวดีๆ ต้นปี 2552 อย่างนี้ มาฟังเรื่องราวของคนผู้นี้กัน- -

"หยี่" เริ่มต้นเล่าความเฮงของชีวิตที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีที่ดวงชะตากำหนด หรือว่า "ฟลุค" กันแน่

" การส่งชิ้นส่วนชิงรางวัลของผมเริ่มต้นจากที่บ้านขายน้ำขวด เวลามีรายการส่งชิงโชคก็จะส่งไป และก็จะได้รางวัลอยู่บ่อยๆ จนคนรู้จักหลายคนมักจะถามว่าทำบุญด้วยอะไรถึงโชคดีขนาดนี้ แต่สำหรับผม- -เปล่าเลย ไม่ใช่เรื่องของโชคดีอย่างเดียว แต่ผมจะดูความน่าจะเป็นด้วย แต่ที่ได้รางวัลบ่อยๆ เป็นเพราะดวงดีหรือเปล่านั้นสุดแท้แต่จะคิดกัน..."

ลอง ไล่เรียงดูความโชคดีของชายหนุ่มผู้นี้กัน- -เริ่มจากเมื่อประมาณสิบปีที่แล้วสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย "หยี่" ได้ส่งชิงโชคชิ้นส่วนของบางอย่าง ซึ่งเจ้าตัวเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นอะไร จำได้แต่ว่าเมื่อประกาศรายชื่อเขาได้รับรางวัลเป็นเงิน 400 บาท

"จำ ได้ว่ามีธนาณัติมาส่งที่บ้านให้ไปรับรางวัลที่ไปรษณีย์..." หยี่ทบทวนความจำ และจากการที่เขาได้ธนบัตรสีแดง 4 ใบ จากการส่งชิงโชคนี่เองที่เป็นการจุดประกายทำให้เขาสนใจเรื่องนี้อย่างจริง จัง และจากนั้นได้ทดลองส่งชิงโชคอีกหลายรายการตามมา ซึ่งแน่นอนว่า "รางวัล" ก็ตามมาด้วยเช่นกัน

"หยี่" ส่งชิงโชคได้กล้องถ่ายรูปแคนนอนพร้อมพรินเตอร์ ราคา 18,500 บาท จาก โค้ก, จี้เพชรราคา 35,000 บาท จาก เป๊ปซี่, ไอพอดนาโน ราคา 8,290 บาท จาก ดีแทค และได้รับค่าโทร.ดีแทค 10,000 บาท จาก เป๊ปซี่, ค่าโทร.ดีแทค 3,600 บาท 3 ครั้ง จาก ปาร์ตี้, กล้องถ่ายวิดีโอ 29,000 บาท จาก ลิปตัน, ทอง 1 บาท 3 ครั้ง จาก เป๊ปซี่, โทรศัพท์มือถือโซนี่ 18,900 บาท จาก เป๊ปซี่, โทรศัพท์มือถือ โมโตโรล่า 2 เครื่อง จาก โค้ก, โทรศัพท์มือถือ โนเกีย 1 เครื่อง จาก โค้ก, เฮชทีซี ดูโอ (สมาร์ท โมบาย) จาก งานคอมมาร์ท, เสื้อทีมฟุตบอลของแท้ 2,000 บาท จาก โทรทัศน์ช่อง 3, จักรยานเสือภูเขา 7,000 บาท จาก โค้ก, โน้ตบุ๊ก HP 39,000 บาท จาก น้ำดื่มคริสตัล, บัตรดูหนัง 4,200 บาท จาก มิรินด้า, นาฬิกาข้อมือพลังแสงอาทิตย์ จาก โค้ก ทัวร์จีน จาก สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 และล่าสุด ทัวร์ญี่ปุ่น 110,000 บาท จาก เป๊ปซี่



" ที่จริงรางวัลมีเยอะมาก แต่ที่จำได้ก็เท่านี้แหละ ยังมีรางวัลแบบรางวัลเล็กๆ น้อยๆ อีก แบบนี้เรียกว่าเยอะหรือเปล่าไม่รู้..." หยี่ถามกลับพร้อมหัวเราะ

ชายหนุ่มดวงเฮงเล่าต่อว่า ก่อนจะลงมือส่งชิงโชคไม่เชิงว่าเป็นเรื่องของดวงล้วนๆ แต่ก็ดูความน่าจะเป็นด้วย

" ผมแบ่งการชิงโชคออกเป็น 2 แบบ คือ แบบที่ส่งชิงโชคแล้วพอมีโอกาสได้บ้าง กับ ส่งชิงโชคแล้วมีโอกาสได้น้อยมาก ที่พอมีโอกาสบ้างคือรางวัลจากเครื่องดื่มโค้กและเป๊ปซี่ซึ่งเป็นเครื่องดื่ม ที่บ้านขาย ส่วนโอกาสที่จะได้น้อยคือของที่ซื้อมาใช้เองภายในบ้าน ซึ่งมีไม่มากนัก ที่สำคัญที่สุด ผมไม่ลงทุนซื้อสินค้าเพื่อเอาซองหรือฝามาส่งชิงโชคแน่นอน..."

"... เคยเจอในโทรทัศน์ที่มีคนกลุ่มหนึ่งซื้อของมาเพื่อชิงโชค ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อให้ได้บางสิ่ง แต่ผมจะจ่ายให้น้อยที่สุดเพื่อให้ได้บางสิ่งมา เพราะการที่ลงทุนไปแล้วไม่ได้ มันก็หมายถึงว่าเราลงทุนสูญเปล่า"

ดัง นั้น การเริ่มต้นของหยี่ คือรวบรวมฝาเครื่องดื่มหลากชนิดเท่าที่ในบ้านขายเท่านั้นเพื่อส่งชิงรางวัล และในการส่งแต่ละครั้งมีตั้งแต่ 100 ฝา ไปจนถึง 1,000 ฝา เห็นจะได้ จากนั้นก็อาศัยดวงบวกกับเทคนิคเฉพาะตัว และรอฟังผล

การส่งชิงโชคใน ช่วงแรกๆ เขาจะดูจากโฆษณา แต่หลังๆ ใช้ดูจากอินเตอร์เน็ต เว็บ www.chokdeedee.com ซึ่งเป็นเว็บที่นักแสวงโชคเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น มีการตั้งกระทู้ ถาม-ตอบกันมาก ส่วนใหญ่จะสอบถามถึงวิธีส่งของไปชิงรางวัล หรือไปหาชิ้นส่วนเพื่อส่งชิงรางวัลได้ที่ไหน เช่น ถุงน้ำตาลยี่ห้อหนึ่ง มีบางคนตอบว่าเขาต้องไปหาซื้อตามร้านขายกาแฟถึงสองพันถุง

"นี่คือการลงทุน แต่ผมไม่เอา มีแค่ไหนผมส่งแค่นั้น บางคนบอกในเว็บว่าส่งเป็นหมื่นฝาเลย เขาไปหาซื้อมาแล้วเขาก็ไม่ได้รางวัล"

หยี่ บอกว่า เทคนิคสำคัญของเขา คือหากการชิงโชคนั้นมีการจับรางวัลหลายครั้ง เขาจะส่งแค่ครั้งแรกครั้งเดียวเสมอ ถ้าครั้งแรกไม่ได้ครั้งต่อไปก็จะไม่ส่ง เพราะมองว่าคนส่งกันเยอะแล้ว และโอกาสได้ของรางวัลจะน้อยมาก

"เวลา ส่งฝาชิงโชคต้องคำนวณน้ำหนักให้ถูก อย่างผมจะส่งฝาทางจดหมายที่มีกำหนดราคาอยู่ เช่น น้ำหนัก 100 กรัม 5 บาท 250 กรัม 9 บาท 500 กรัม 15 บาท ถ้าเราใส่ฝาไป 105 กรัม เขาก็ตีเป็น 9 บาทแล้ว ฉะนั้นเราต้องทำให้คุ้มลงทุนให้น้อยที่สุด"

เท่านั้นยังไม่ พอ กระดาษที่เขียนชื่อที่อยู่ด้านในฝาก็ต้องเลือกแบบให้ดี หยี่แนะนำว่าไม่ควรเป็นกระดาษ A4 ที่ใช้ตามสำนักงาน เพราะจะหนาเวลาพับจะไม่ลงพอดีกับฝา แต่ให้ไปหากระดาษตามร้านถ่ายเอกสารทั่วไป ราคาแผ่นละ 38 สตางค์ หรือ 50 สตางค์ อย่างนี้เวลาพับลงจะอยู่พอดี

"แล้วทำไมไม่ส่งเป็นพัสดุได้คราวละเยอะๆ ราคาก็ถูกกว่า" เสียงถามด้วยความสงสัย

หยี่ บอกว่า การส่งชิงโชคกองใหญ่เบ้อเริ่ม ถ้าส่งทีเดียว 2-3 กิโลกรัม ในกล่องเดียวเพื่อประหยัดค่าส่ง พอไปถึงเขาจะนำของที่เราส่งไป-ไปเทไว้ที่เดียว ของก็จะกระจุกอยู่แค่ตรงนั้น ถ้าจับไม่โดนก็จบ ผิดกับการที่ค่อยๆ ทยอยส่งด้วยจดหมาย ของที่ส่งไปจะกระจาย และจะไม่ส่งทีเดียวจบ และจะใช้วิธีส่งวันเว้นวัน... นี่คือเทคนิค

กับรางวัลล่าสุด ได้ไปทัวร์ญี่ปุ่นกับดาราคนโปรด หยี่บอกว่า เขาวางแผนไว้เป็นอย่างดี

" พอรู้ว่าจะมีการจับรางวัล 2 ครั้ง ต้องมาเช็ครายละเอียดแล้ว พบว่าครั้งนี้แปลกกว่าครั้งอื่นๆ เพราะปกติแล้วหากระบุว่าจะมีการจับสลากวันไหน จะหมดเขตส่งชิงโชคก่อนวันจับรางวัล 1 วัน แต่ครั้งนี้ในการจับรางวัลครั้งแรก เขากำหนดหมดเขตส่งก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งคนไม่ค่อยรู้ แต่พอเรารู้ เราก็ต้องรีบส่งให้ทัน ผมเริ่มวางแผนเพราะฝาที่จะส่งมีจำกัด 200 กว่าฝาเท่านั้น เลยแบ่งส่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกส่งแบบธรรมดา อีกครั้งส่งตามไปทีหลังแบบ EMS แล้วผมก็ได้รางวัลสมใจ ซึ่งดีใจมากอยากไปญี่ปุ่นพอดี"

แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็ยอมรับว่า เรื่องของ "ดวง" ก็มีส่วนเหมือนกัน

" มีอยู่รายการ- -แจกโน้ตบุ๊กของน้ำดื่มคริสตัล อันนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องของดวง เพราะผมส่งฝาไปชิงโชคแค่ 100 ฝา แต่กองฝาที่เขาส่งชิงโชคกันใหญ่มากสูงเป็นภูเขา อันนี้ต้องถือว่าฟลุค"

หรือแม้แต่การไปเดินเที่ยวงานคอมมาร์ทที่มีแจกคูปองให้หย่อนชิงโชค หยี่ทดลองหย่อนดูก็ยังได้รางวัลติดมือกลับบ้านฟรีๆ

" ที่เรียกว่าชีวิตเฮงสุดสุดน่าจะเป็นช่วงฟุตบอลโลก ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ให้ส่งข้อความว่าจะเชียร์ทีมไหน แล้วจะคัดเลือกมาหนึ่งข้อความ ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าเกณฑ์ตัดสินคืออะไร ถ้าส่งข้อความเกิน 3 บาทผมไม่ส่ง แต่อันนี้ 3 บาท ผมก็ส่งไป 1 ข้อความ ผมไม่ส่งเยอะเพราะเปลืองเงิน วันนั้นก็มีโทรศัพท์มาบอกว่าเราเป็นผู้โชคดี จะประกาศชื่อในรายการ ปรากฏว่าคนที่ได้คือคนที่ส่งข้อความมาเป็นคนที่ 3,333 เขาประกาศชื่อผม โฮ้ย...เป็นครั้งแรกที่ชื่อได้ออกโทรทัศน์ (หัวเราะ)...เลยได้เสื้อฟุตบอลของแท้มาครอบครอง"

นอกจากนั้นก็มีปี 2550 ที่ส่งไปชิงโชค 3 รายการก็ได้รางวัลทั้งสามรายการ เป็นรางวัลค่าโทร.ฟรีดีแทค 10,000 บาท จนป่านนี้ยังใช้ไม่หมด

" ยังเคยคิดเลยว่าบริษัทพวกนี้ชาติที่แล้วเขาเป็นหนี้กรรมอะไรกับเรามาหรือ เปล่า...(หัวเราะ) ยิ่งโค้ก เป๊ปซี่ รวมแล้วก็หลายรางวัลอยู่นะ แม้แต่รายการลุ้นกันหน่อยของหนังสือพิมพ์ข่าวสด ก็ยังได้เลยเป็นชั่วโมงอินเตอร์เน็ต กับบัตรคอนเสิร์ตมาช่า"

นอกจาก การส่งชิงโชคแล้ว ในยุคสมัยนี้โลกไซเบอร์ก็มีการชิงโชคแบบใหม่มาล่อใจ เช่น ให้แข่งกันโหลดว่าใครโหลดมากเป็นอันดับ 1-100 จะนำชื่อมาจับสลากชิงรางวัลไอพอด

"ช่วงสองเดือนแรกผมยังไม่รู้ว่า 100 อันดับแรกนั้นแต้มสูงแค่ไหน เลยโหลดไปประมาณ 1 พันครั้ง เชื่อไหม อันดับหนึ่งที่เขาโหลดกันเกือบ 1 หมื่นครั้งนะ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกโหลดฟรี ตอนนั้นผมมีโปรโมชั่นก็โหลดฟรีเหมือนกัน เขาจะมีให้โหลดหลายอย่าง ผมเลือกโหลดวอลเปเปอร์เพราะมันเบาที่สุด สองเดือนแรกที่ผมลองโหลดดูไม่ได้ ก็เลยกะว่าจะลองครั้งที่ 3 ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอาแล้ว ปรากฏว่าได้ พอเขาเอา 100 คนแรกมาจับรางวัลเอา 3 คน ผมก็ได้ไอพอด..."

สำหรับเทคนิคขั้นตอนนี้ของเขาคือใช้เวลาว่าง เช่น เวลานั่งรถเมล์มาทำงานก็จะโหลดไปเรื่อยๆ

"ทุกวันนี้พี่ที่ทำงานบอกว่าให้ลาออกไปซะ... ไปส่งชิงโชคอย่างเดียว..." หยี่หัวเราะขำ

ท่ามกลางความโชคดีเป็นคนดวงเฮง หยี่บอกว่า เขาเคยรู้สึกกลัวเหมือนกัน!!

"บางครั้งการที่เราได้อะไรแพงๆ ดีๆ ก็กลัวว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดตามมา กลัวเป็นทุกขลาภ- - แต่ก็ยังไม่เคยเจอนะ"

ขณะที่คนอย่างหยี่มีโชคเรื่องของการชิงรางวัล แต่น่าประหลาดว่าเขาไม่เคยถูกหวยรวยเบอร์

"จริงๆ ไม่ชอบเรื่องพวกนี้ เคยซื้อและจำได้ว่าถูก 3-4 ครั้งเท่านั้น จากนั้นก็ไม่เล่นอีก..."

หนุ่ม ดวงเฮงบอกเล่าว่า หากจะคิดว่าเกิดมาดวงดีหรือมาพร้อมกับโชคน่าจะเป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเรื่องของการ "คิดดี" และ "ทำดี" เพราะนิสัยส่วนตัวของชายวัยสามสิบผู้นี้เป็นคนชอบทำทาน

"พวกสร้าง โบสถ์สร้างวัดผมไม่ค่อยได้ทำครับ แต่จะช่วยเหลือมากกว่า เช่น ชอบช่วยคนพิการ สุนัขพิการ อะไรแบบนี้ และสิ่งที่ผมทำบ่อยที่สุดคือเวลาไปธนาคารจะเห็นว่ามีกล่องรับบริจาคเงินให้ เด็กพิการบ้าง เด็กปัญญาอ่อนบ้าง แบบนี้ผมจะให้บ่อยมากและรู้สึกดีที่ได้ทำ"

"ผมไม่ศรัทธาคนที่ชอบไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วขอพรให้ตัวเองดี ร่ำรวย แต่ในชีวิตยังทำบาปอยู่"

ณัฐพงษ์ ธนกรดิษฐ์ หรือ "หยี่" ตบท้ายในการสนทนา



ผู้ตั้งกระทู้ News กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-06 20:58:11


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2053101)
คุณครับ หากอยากได้ทรัพย์ได้สิ่งของต้องประสงค์ไม่ยากเลยหาลูกแก้วดูดทรัพย์ซิของอาจารย์อะไรจำไม่ได้ลืมชื่อ ผมมีปัญหามากเรื่องการเงินและหนี้สินเกือบฆ่าตัวตายเพราะขาดทุนหลายร้อยล้าน มาได้อ้ายลูกแก้วกลมๆนี่ช่วยศักดิสิทธิ์จริงๆยอมรับผมปลดหนี้ได้ไม่นานทั้งๆที่เศรฐกิจย่ำแย่ ใครที่มีอาการคลายผมๆขอแนะนำเหมือนผมได้ทำบุญครับ ลองโทรไปถามที่นี่ดูว่าเขายังพอมีไหมเพราะคนไปจองกันมากมาย โทร 081-9261451 ราคาที่ผมเช่ามาเพียง 900 บาทเท่านั้น ลองดูนะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พงค์พันธ์ วันที่ตอบ 2009-03-16 14:35:59



[1]