ReadyPlanet.com


สุริยคราส ปี2552


สุริยคราส ปี2552 ครั้งแรกจะเกิดในวันที่ 26 ม.ค.52 เป็นสุริยคราสวงแหวน ส่วนในวันที่ 22 ก.ค. 52 จะเกิดสุริยคราสเต็มดวง สุริยคราส ปี2552 จะเกิดขึ้นถึง2ครั้งถึงแม้ประเทศไทยจะมองเห็นแค่บางส่วน
ปี 52 ลุ้นชมสุริยคราสกันเต็มตาอีก 2 ครั้ง คนไทยห้ามพลาดเด็ดขาด แม้จะได้เห็นอาทิตย์เว้าแหว่งแค่บางส่วน ปรากฏการณ์แรก "สุริยุปราคาวงแหวน" เกิดขึ้นในเดือน ม.ค. และอีกครั้งในเดือน ก.ค. กับ "สุริยุปราคาเต็มดวง" ที่ปีนี้พิเศษกว่าครั้งไหน เพราะคราสจับเต็มดวงนานกว่า 6 นาที

หลวงพ่อโสธร|หลวงพ่อทวด|หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน|หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม|จตุคาม
ที่มา...http://www.manager.co.th/

สุริยุปราคาบางส่วนเหนือมหาสมุทร (ภาพจากแฟ้ม/นาซา)

    
     เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.51 ที่ผ่านมา สมาคมดาราศาสตร์ไทย (http://thaiastro.nectec.or.th/) ได้แถลงข่าวมหกรรมการเกิดสุริยคราสวงแหวนและสุริยคราสเต็มดวงในปี 2552 ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ที่ไม่ควรพลาด และประเทศไทยก็อยู่เขตที่เงามืดของดวงจันทร์พาดผ่านขณะเคลื่อนเข้าบดบังดวง อาทิตย์ด้วย โดยจะเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งในงานนี้มีสื่อมวลชนให้ความสนใจมาร่วมมากมายรวมทั้งผู้จัดการวิทยา ศาสตร์ด้วย
   
     นายอารี สวัสดี อุปนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์สุริยคราสที่จะเกิดขึ้นในปี 52 นั้นมี 2 ครั้งด้วย ครั้งแรกจะเกิดในวันที่ 26 ม.ค.52 เป็นสุริยุปราคาวงแหวน เนื่องจากดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ เส้นทางของสุริยคราสวงแหวนส่วนใหญ่อยู่ในทะเล โดยมีเพียงบางส่วนของประเทศอินโดนีเซียที่เท่านั้นที่จะสังเกตเห็นสุริยคราสวงแหวนได้ในเวลาประมาณ 16.37 น. ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งกินเวลานานกว่า 5 นาที
   
     ขณะเดียวกันชาวไทยจะเริ่มเห็นเงาของดวงจันทร์เคลื่อนเข้าบดบังดวงอาทิตย์ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.38 น. เป็นเวลาขณะที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งมุมเงยราว 30 องศา โดยภาคใต้ของประเทศจะเริ่มเห็นปรากฏการณ์นี้ก่อนภูมิภาคอื่นๆ และเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งมากที่สุดในเวลา 16.55 น. ประมาณ 60% ซึ่งมากกว่าภูมิภาคอื่นด้วยเช่นกัน ส่วนกรุงเทพฯ จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ 15.53 น. และจะเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งมากสุดราว 45% ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ภาคเหนือจะเห็นเว้าเพียง 30% เท่านั้น และปรากฏการณ์นี้จะสิ้นสุดลงในเวลาประมาณ 18.00 น.
   
     นอกจากนี้ยังมีประเทศในแถบแอฟริกาตอนใต้ บางส่วนของแอนตาร์กติกา จีน อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย ที่จะสามารถเห็นปรากฏการณ์สุริยคราสบางส่วนได้เช่นกัน
   
     ส่วนในวันที่ 22 ก.ค. 52 จะเกิดสุริยคราสเต็มดวงที่ มีเส้นทางผ่านประเทศอินเดีย เนปาล ภูฏาน บังกลาเทศ ตอนเหนือของพม่า จีน และบางเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น และเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกก่อนจะสิ้นสุดลง
   
     สุริยุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากระยะเวลาขณะดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์จนมืดมิด กินเวลานานกว่า 6 นาที นับว่ายาวนานที่สุดในศตวรรษที่ 21 โดยจุดที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนานที่สุดอยู่บริเวณทะเลทางด้านตะวันออกของ เกาะดิโวะจิมะ ประเทศญี่ปุ่น ยาวนานประมาณ 6 นาที 39 วินาที ตรงกับเวลาประมาณ 9.29 น. ของประเทศไทยไทย ทั้งนี้ สุริยคราสเต็มดวงสามารถเกิดขึ้นได้นานสุดราว 7 นาที ส่วนสุริยคราสเต็มดวงที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี 2538 กินเวลาประมาณ 2 นาทีเท่านั้น
   
     ส่วนประเทศไทยก็จะเห็นเป็นเพียงสุริยุปราคาบางส่วนเช่นกัน โดยจะเริ่มต้นและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาประมาณ 7.00-9.00 น. ซึ่งในครั้งนี้จังหวัดในภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งได้มากที่สุด
   
     สำหรับปี 2552 นั้นยังได้รับการประกาศให้เป็น "ปีดาราศาสตร์สากล" อีกด้วย เนื่องในวาระครบรอบ 400 การศึกษาดาราศาสตร์เป็นครั้งแรกอย่างจริงจังของกาลิเลโอ กาลิเลอิ นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ผู้ประดิษฐ์กล้องโทรทัศน์เป็นคนแรกและพิสูจน์ได้ว่าโลกมีสัณฐานกลมและ โคจรรอบดวงอาทิตย์
   
     ด้าน น.ส.ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ กล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ข้อสำคัญในการชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาคือ ห้ามดูด้วยตาเปล่าเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายถึงตาบอดได้ และห้ามดูผ่านฟิล์มเอ็กซ์เรย์ ฟิล์มขาวดำ หรือกระจกรมควัน เพราะยังไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อดวงตาได้เช่นกัน
   
     วิธีการดูสุริยุปราคาที่ถูกต้องคือการมองผ่านแผ่นฟิล์มชนิดพิเศษที่ใช้ในการสังเกตดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยป้องกันดวงตาจากรังสีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์ได้ จึงมีความปลอดภัย 100% หรือชมปรากฏการณ์ทางอ้อมผ่านเงาของดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบลงบนฉากรับแสง
   
     ในการนี้ทางสมาคมดาราศาสตร์ไทยก็ได้จัดทำแผ่นฟิล์มดังกล่าวในรูปแบบ "แว่นสุริยะ" สำหรับชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายสิบปี โดยจำหน่ายในราคาชิ้นละ 50 บาท ผู้สนใจปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์หรือแว่นสุริยะ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สมาคมดาราศาสตร์ไทย โทร. 02-381-7409-10.



ผู้ตั้งกระทู้ News กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-05 07:53:22


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2052991)

สุริยคราส ปี2552 ต้องดูให้ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ติ๊ก วันที่ตอบ 2009-01-24 16:28:30


ความคิดเห็นที่ 2 (2052994)

เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เราไม่ควรพลาด และเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง

ควรติดตามต่อไปนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บีบี วันที่ตอบ 2009-01-26 10:27:57


ความคิดเห็นที่ 3 (2052996)
แจ่มจิง ๆ กับการดูสุริยคราส ครั้งนี้ มะมีโอกาสได้เห็นกันบ่อย ง่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น Thep Rsoon Version 2 (r_soon-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-26 15:21:13


ความคิดเห็นที่ 4 (2052997)
ระวังสายตาด้วยนะคะ ถ้าดูด้วยตาป่าว ควรใช้อุปกรณ์ช่วยนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น n.e.w. วันที่ตอบ 2009-01-26 17:00:12


ความคิดเห็นที่ 5 (2052999)

พลาดดูเลยครับ...

ผมติดเรียน

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กมมส. วันที่ตอบ 2009-01-26 17:19:35


ความคิดเห็นที่ 6 (2053000)

ใช่ๆๆๆๆ

 

ต้องดูๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุ่น (jj6069-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-26 18:22:09


ความคิดเห็นที่ 7 (2053015)

มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกชิ้นปิ้ง racing team วันที่ตอบ 2009-02-07 18:14:05



[1]