ค่ายยักษ์แก้เกม"ไอโฟนเอฟเฟ็กต์"
iPhone เร่งปรับแผนขยับราคา-ดีแทคส่งแคมเปญรับน้อง
" ไอโฟนเอฟเฟ็กต์" หลังน้องเล็กทรูมูฟแก้มืองัดแพ็กเกจใหม่ขายเครื่องเปล่า
"ไอโฟน 3G" ตั้งราคาชน "มาบุญครอง" ผู้ค้ามือถือเชื่อทุบตลาดเกรย์มาร์เก็ตเต็มๆ
ไม่ปรับราคาสู้อยู่ไม่ได้แน่ ขณะที่ "พีดีเอ-สมาร์ทโฟน" โดนหางเลข "อัสซุส"
ปรับแผน-ขยับราคาสินค้าใหม่รับมือ ขณะที่ "เอชทีซี" ไม่หวั่นไหวจับมือพาร์ตเนอร์จัด
"HTC Day" กระตุกยอดขาย ฟาก "ดีแทค" ไม่รีรอเตรียมคลอดแคมเปญรับน้อง
หลัง "ทรูมูฟ" เปิดตัวแพ็กเกจ "ไอโฟน 3G"
มาให้ลูกค้าจองซื้อในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ด้วยสัญญาที่ผูกมัดนานถึง 2 ปี
กับค่าบริการเหมาจ่ายรายเดือนที่ค่อนข้างสูง ทำให้กระแสตอบรับไอโฟน 3G
ของทรูมูฟไม่สู้ดีนัก ส่งผลให้ตลาดเกรย์มาร์เก็ตที่มาบุญครองกลับมาคึกคักอีกครั้ง
โดยราคาเครื่องหิ้วจากอเมริกาจะอยู่ที่ 22,500 บาท และ 24,900 บาท ความจุ 8 GB และ
16 GB ตามลำดับ ขณะที่เครื่องหิ้วจากฮ่องกงปลดล็อกแล้ว 8 GB ราคา 24,500 บาท 16 GB
27,500 บาท
กระทั่งเมื่อ 9 ม.ค.2552
ทรูมูฟตัดสินใจออกแพ็กเกจใหม่ขายเครื่องเปล่า ราคา 24,500 บาท (8 GB) และ 28,500
บาท (16 GB) โดยให้สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้ากลุ่มทรู ทั้งโทรศัพท์พื้นฐาน อินเทอร์เน็ต
วีพีซีที ทรูมูฟ และทรูวิชั่นส์ แต่ให้ซื้อได้ 2 เครื่องต่อ 1 ราย
เท่ากับเปิดทางให้มีการนำเครื่องเปล่าไปใช้กับระบบอื่นได้
โดยทรูมูฟ
เปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนสั่งจองผ่าน www.truemove.com หรือ www.weloveshopping.com
และให้ไปรับเครื่องในงานเปิดตัว 16-18 มกราคมนี้ ที่พารากอนฮอลล์
จากการปรับแพ็กเกจใหม่ดังกล่าว กระตุ้นให้คู่แข่งอย่าง บมจ.โทเทิ่ล
แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ไม่นิ่งเฉย นอกจากแคมเปญใหม่ๆ
ที่วางแผนไว้ว่าจะออกมา สร้างสีสันให้ตลาดช่วงเทศกาลตรุษจีนแล้ว
ในระหว่างนี้กำลังคิดแคมเปญพิเศษต้อนรับการเปิดขายเครื่องเปล่าไอโฟน 3G ของ
ทรูมูฟโดยเฉพาะ เนื่องจากลูกค้าในระบบ ดีแทคนำซิมไปใช้กับเครื่องเปล่าดังกล่าว
ได้ด้วย
นายกุลดิษฐ์ สมุทรโคจร กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์
ซัพพลาย จำกัด (WDS) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การเปิดขายเครื่องเปล่าไอโฟน
3G ของทรูมูฟจะมีผลกระทบต่อตลาดเครื่องหิ้วหรือเกรย์มาร์เก็ตอย่างแน่นอน ส่งผลให้
สินค้าเกรย์มาร์เก็ตต้องปรับราคาขายให้ต่ำกว่าเพื่อจูงใจลูกค้า
เนื่องจากทรูมูฟได้รับสิทธิในการทำตลาดอย่างเป็นทางการจึงมีจุดขาย
เรื่องบริการหลังการขาย
แต่กับตลาดโทรศัพท์มือถือโดยรวมถ้าจะกระทบจะเป็นในกลุ่มไฮเอนด์ เช่น
มือถือจอทัชสกรีน, สมาร์ทโฟน หรือพีดีเอโฟน เป็นหลัก
ซึ่งแต่ละแบรนด์อาจต้องปรับแผนการตลาดรับมือ
"หากการเข้าสู่ตลาด
อย่างเป็นทางการของไอโฟน มือถือแบรนด์ต่างๆ ก็คงไม่อยู่เฉย
เราในฐานะดิสทริบิวเตอร์คงต้องถามเจ้าของแบรนด์ไปว่าจะมีการปรับตัวหรือมี
อะไรรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหรือเปล่า
ถ้าจะมีอะไรออกมาก็คงต้องมาจากแบรนด์เป็นหลัก
ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ด้วยว่าจะมองยังไง สำหรับตลาดมือถือโดยรวมในปีนี้ตนมองว่า
คงพอๆ กับปีที่แล้ว คือประมาณ 9 ล้านเครื่อง แต่ในแง่มูลค่าอาจลดลงอย่างต่ำ 10%
จากกำลังซื้อที่ลดลง
ทำให้สินค้าที่ขายได้มากจะเป็นรุ่นที่มีราคาถูก"
ด้านนายณัฐวัชร์ วรนพกุล
ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวกับ
"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
การปรับแพ็กเกจใหม่ของทรูมูฟโดยประกาศขายเครื่องเปล่าในราคาเริ่มต้นที่ 24,500 บาท
(ความจุ 8 GB) จะส่ง ผลกระทบโดยตรงต่อตลาดเกรย์มาร์เก็ต หรือไอโฟนเครื่องหิ้ว
ที่อาจต้องมีการปรับลดราคาลงเพื่อให้แข่งขันได้
ทั้งราคาเครื่องเปล่าในต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง แต่กับเอชทีซีเชื่อว่าไม่มีผลกระทบ
บริษัทยังจะเดินหน้าสร้างการรับรู้ในแบรนด์ มีกิจกรรม
ส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องต่อไปตามเดิม
"เรายังเดินตามแผนงาน เดิม
ไม่ได้ปรับอะไรเพื่อรับมือ เพราะเชื่อว่าไม่กระทบเราโดยตรง เรายังคงเดินหน้าโปรโมต
แบรนด์ภายใต้วินโดวส์ โมบาย และบริการหลังการขายต่างๆ
ปัจจุบันเอชทีซีมีสินค้าอยู่ในตลาดทั้งหมด 12 รุ่น รุ่นที่ขายดีราคา 1-1.5 หมื่นบาท
กรณีไอโฟนกระทบกับตลาด พีดีเอตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่มีการหิ้วเข้ามาขายใหม่ๆ
ถึงวันนี้ต้องถือว่า ไอโฟนไม่ใช่ของใหม่อีกต่อไป
ในไทยน่าจะมีคนใช้เป็นแสนเครื่องแล้ว"
ทั้ง นี้ในระหว่างวันที่ 15-18 มกราคม
2552 เอชทีซีจะมีการจัดงาน "HTC Day" ขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ไอทีมอลล์ ฟอร์จูน
ในงานนอกจากมีสินค้าราคาพิเศษ อาทิ เอชทีซี ทัช ไดมอนต์ ลดราคา 50% (วันละ 6
เครื่อง) ยังมีการแข่งขันเพื่อค้นหาเดอะแชมเปี้ยน เอชทีซี
และมีกิจกรรมร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ทั้งเอไอเอส, ดีแทค, ไมโครซอฟท์ เป็นต้น
นาย ณัฐวัชร์กล่าวว่า ปีนี้ไอดีซีประเมินว่า ตลาดมือถือทั่วโลกจะเติบโตลดลง
3-4% แต่สมาร์ทโฟนจะเติบโต 8-9% คล้ายคลึงกับการเติบโตของตลาดพีดีเอในไทย
เพราะในการใช้งานและดีไซน์คุ้มค่าและตอบโจทย์มากขึ้น
แม้ปีที่ผ่านมาตลาดพีดีเอจะเติบโตประมาณ 20% หรือมียอดขาย 3 แสนกว่าเครื่อง
เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้นจึงทำให้ตลาดใหญ่ขึ้นด้วย
แต่
จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคอาจมีการชะลอ ซื้อ
จึงพบว่าแต่ละแบรนด์มีโปรโมชั่น กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ เช่น ร่วมกับ
โอเปอเรเตอร์จัดโปรแกรมเงินผ่อนหรือแถม โทร.ฟรี เป็นต้น
ด้านนายพร เทพ
วัชรอำนวย กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
ตลาดพีดีเอโฟนจะได้รับผลกระทบแน่นอนจากการเข้าสู่ตลาดของ ไอโฟน 3G ทรูมูฟ
โดยเฉพาะในโมเดลที่มีสเป็กและราคาใกล้เคียงไอโฟน คือประมาณ 2 หมื่นบาท
ส่งผลให้โทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โมบาย
บางรุ่นอาจต้องปรับราคาลง เพราะผู้บริโภคจะเกิดการเปรียบเทียบ
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ที่จะขยับมาใช้พีดีเอโฟนอาจหันมาเลือกไอโฟน
อย่าง
ไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อ ไอโฟน iPhoneจะเน้นการใช้ฟังก์ชันรูปภาพ 80%
ขณะที่ลูกค้าพีดีเอเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้งานมากกว่านั้น โดยส่วนตนเชื่อว่า
กลุ่มลูกค้าที่ซื้อไอโฟนจากทรูมูฟเป็นกลุ่มคอนซูเมอร์ทั่วไปที่อยากได้
สินค้าเพราะรูปลักษณ์ และบริการหลังการขายเป็นหลัก
"แพ็กเกจเดิมของ
ทรูมูฟที่ประกาศออกมาครั้งแรก รวมๆ แล้วจะประมาณ 3 หมื่นบาท
ตอนนั้นเชื่อว่าพีดีเอยังขายได้ เพราะสินค้าคนละกลุ่ม คนละตลาด
แต่พอมีการปรับแพ็กเกจให้ซื้อขายเครื่องเปล่าได้
เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบในพีดีเอโฟนบางรุ่น
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่เจาะผู้เริ่มใช้พีดีเอโฟนจะกระทบมากที่สุด เพราะราคาไอโฟน
iPhoneเพียง 2 หมื่นกว่าบาท"...
สำหรับอัสซุสเชื่อว่าจะได้รับ
ผลกระทบเช่นกันจึงจะมีการปรับราคาสินค้ารุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ
นี้เพื่อให้เหมาะสม ยิ่งขึ้น จากเดิมตั้งราคาไว้ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท
ใกล้เคียงกับราคาไอโฟนในปัจจุบัน แต่เอชทีซีรุ่นนี้มีคุณสมบัติซีพียูความเร็วสูง
หน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ มี acess piont
"อัสซุสต้องปรับราคาสินค้าและวาง
โพซิชันนิ่งของสินค้าใหม่ เปรียบเทียบคุณสมบัติจุดเด่นและจุดต่างกับไอโฟนอีกครั้ง
เพื่อที่จะวางราคาสินค้าให้เหมาะสม คาดว่าปีนี้ตลาดรวมพีดีเอโฟนจะไม่โตมากนัก
เพราะปัจจัยจากเศรษฐกิจ อีกทั้งมีสินค้า เช่น เน็ตบุ๊กเข้าสู่ตลาด
ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น
ในช่วงต้นปีมีไอโฟนเข้าสู่ตลาดอาจสร้างกระแสได้ช่วงหนึ่ง" ที่มา... http://www.matichon.co.th/prachachat/
|