ใน ที่สุด ซิตี้กรุ๊ป ก็กลายเป็นยักษ์ใหญ่รายล่าสุด ซึ่งไม่สามารถ ฝ่ามรสุมการเงินไปได้ และกำลังเดินย่ำรอยเดียวกับ เอไอจี กลุ่มประกัน รายใหญ่สุดของโลก เข้าโครงการ ช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาลแล้ว อย่างเป็นทางการ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 พ.ย.) ทางการสหรัฐตัดสินใจจัดทำแผนช่วยเหลือทางการเงินแก่ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจากแถลงการณ์ร่วมของกระทรวงการคลัง ธนาคารกลางสหรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่อแห่งสหรัฐ (เอฟดีไอซี) ได้กำหนดรายละเอียดของข้อตกลงไว้ว่า ทางการสหรัฐจะเข้าไปอัดฉีดเงินทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กลุ่มการเงินราย นี้ เป็นจำนวน 2 หมื่นล้านดอลลาร์

ภายใต้แผนช่วยเหลือ กระทรวงการคลัง และเอฟดีไอซี ยังจะให้การคุ้มครองกลุ่มสินทรัพย์ที่ครอบคลุมทั้งเงินกู้ ตราสารหนี้ ซึ่งมีที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ตลอดจนสินทรัพย์อื่นๆ เป็นหลักประกัน มูลค่ารวม 3.06 แสนล้านดอลลาร์ ในกรณีที่อาจเกิดการขาดทุนจำนวนมากอย่างผิดปกติ ขึ้นกับสินทรัพย์เหล่านั้น

เจ้า หน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยว่า กลุ่มสินทรัพย์ 3.06 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นตราสารที่มีสินเชื่อ ที่อยู่อาศัย และไม่ใช่เป็นหลักประกัน ซึ่งตลาดการเงินจัดให้อยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ประเภทที่มีความเสี่ยง

อย่าง ไรก็ตาม การจัดทำแผนช่วยเหลือครั้งนี้ กลับเต็มไปด้วยเงื่อนไขเข้มงวดมากมาย โดยเฉพาะการกำหนดให้ซิตี้กรุ๊ปจะต้องออกหุ้นกู้บุริมสิทธิให้แก่รัฐบาล จำกัดผลตอบแทนแก่ผู้บริหาร และปฏิบัติตามโครงการของรัฐบาล ที่ต้องการให้ ยักษ์ใหญ่การเงินจัดหาเงินกู้ให้แก่ผู้กู้ที่กำลังประสบปัญหา

นอกจาก เงื่อนไขที่กล่าวไว้เบื้องต้นแล้ว ซิตี้กรุ๊ปยังจะต้องแบกรับภาระการขาดทุนในกลุ่มสินทรัพย์ทุกประเภท เป็นจำนวนเงินสูงสุด 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมการสำรองเงินทุนชดเชยการขาดทุนตามเกณฑ์ปัจจุบันด้วย

โดยที่ รัฐบาลจะเข้ามารับภาระในกรณีที่เกิดการขาดทุนสูงเกินวงเงินสูงสุดที่ซิตี้ กรุ๊ปต้องรับภาระ ในสัดส่วน 90% ของส่วนที่เกิน โดยเบื้องต้นได้กันเงิน 5 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนที่ตั้งขึ้นภายใต้แผนฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรัฐสภาอเมริกันอนุมัติไว้เมื่อเดือนที่แล้ว เป็นเงินก้อนแรกสำหรับการชดเชยในกรณีดังกล่าว ส่วนเงินก้อนถัดไป 1 หมื่นล้านดอลลาร์จะมาจากเอฟดีไอซี

สำหรับบทบาทของธนาคารกลางสหรัฐจะ เข้ามาเสริมในกรณีที่เงินทุนจากแหล่งทุนทั้งหมดที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอ แต่ธนาคารกลางสหรัฐอาจคิดดอกเบี้ยจากเงินกู้ดังกล่าวหากจำเป็น โดยใช้หลักการเดียวกับเงื่อนไขใหม่ที่กำหนดไว้ในแผนช่วยเหลือทางการเงินฉบับ ใหม่แก่บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป หรือเอไอจี เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้ว่าการ ธนาคารกลางสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติแผนช่วยเหลือซิตี้กรุ๊ปแล้วเช่นกัน

อย่างไร ก็ตาม เงื่อนไขในแผนช่วยเหลือทางการเงิน กำหนดให้ซิตี้กรุ๊ปต้องให้ หุ้นกู้บุริมสิทธิ 7 พันล้านดอลลาร์ บวกเงินปันผล 8% ให้แก่กระทรวงการคลัง และเอฟดีไอซี เป็นค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการจัดทำแผนช่วยเหลือ

การ จัดทำแผนช่วยเหลือทางการเงิน แก่ซิตี้กรุ๊ป หลังจากที่กลุ่มการเงินยักษ์ใหญ่เผชิญกับแรงเทขายหุ้นอย่างหนัก เมื่อวันศุกร์ สวนทางกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ และหุ้นกลุ่มเดียวกันบางตัว ที่พุ่งทะยาน รับข่าวการที่บารัก โอบามา ตัดสินใจ แต่งตั้งทิมโมธี เกิร์ทเนอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ประจำนิวยอร์ก เป็นรัฐมนตรีคลังในชุดของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น แรงเทขายบวกกับข่าวลบต่างๆ ที่รุมเร้า ส่งผลให้ต้นทุนการประกันความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (credit default swaps : CDSs) ของซิตี้กรุ๊ป ขยับขึ้นไปอีกเมื่อวันศุกร์ (22 พ.ย.) ทำให้นักลงทุนที่เล่นในตลาด CDSs ต้องจ่ายเป็นจำนวนทั้งสิ้น 500,000 ดอลลาร์ต่อปี กรณีหากซิตี้กรุ๊ปผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ 10 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 430,000 ดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) กระนั้นวงเงินของต้นทุนที่นักลงทุนต้องจ่ายยังต่ำกว่าเมื่อครั้งเกิดวิกฤตเล ห์แมน บราเธอร์ส และแบร์ สเติร์นส์ ค่อนข้างมาก